แนะนำอาวุธเพื่อนบ้านรถสะเทินน้ำสะเทินบก เอเอวีพี-7เอ1
พลเอก ทรงพล ไพนุพงศ์
นาวิกโยธินฟิลิปปินส์ (PMC) เตรียมรับมอบรถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่เอเอวีพี-๗เอ๑ (AAVP-7A1) ชุดแรกรวม ๔ คัน จากประเทศเกาหลีใต้ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๑ และชุดที่สอง อีก ๔ คัน ในเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑ โดยจัดหาจากประเทศเกาหลีใต้รวม ๘ คัน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙ เกาหลีใต้จะมีชื่อเรียกใหม่ว่าแบบเคเอเอวี-๗เอ๑ (KAAV-7A1) หน่วยนาวิกโยธินฟิลิปปินส์ (PMC) มีกำลังประมาณ ๗,๕๐๐ นายกองบัญชาการ อยู่ที่ฟอร์ท โบนิฟาซิโอ (Fort Bonifacio) การรบที่เมืองมาราวี (Marawi) ตอนใต้ของประเทศที่เกาะมินดาเนา หน่วยนาวิกโยธินเข้าร่วมปฏิบัติการเป็นการรบภายในเมืองกำลังทหารฟิลิปปินส์เข้ากวาดล้างกองกำลังติดอาวุธประมาณ ๑,๐๐๐ คน (อาบูซายัฟและมาอูเต้) เข้ายึดเมืองขนาดพื้นที่ ๘๗ ตารางกิโลเมตร ประชากร ๒๐๑,๗๐๐ คน ใช้กำลังทหาร ๖,๕๐๐ นาย เข้ากวาดล้างระหว่างวันที่ ๒๓ พฤษภาคม – วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ เป็นการรบติดพันนานถึง ๕ เดือน กองทัพฟิลิปปินส์ได้รับชัยชนะ (กองกำลังติดอาวุธเข้ายึดเมืองในอดีตของกลุ่มประเทศกลุ่มอาเซียนเกิดขึ้นมาแล้วรวม ๒ ครั้ง ครั้งแรกที่เมืองลาฮัดดาตู ประชากร ๒๗,๘๐๐ คน รัฐซาบา ประเทศมาเลเซีย กองกำลังติดอาวุธ ๒๓๕ คนเข้ายึดเมืองกองทัพบกมาเลเซียใช้กำลังทหารเข้าผลักดันและกวาดล้างใช้กำลังทหารราบรวม ๗ กองพัน พร้อมด้วยหน่วยสนับสนุนกำลังพลรวม ๖,๕๐๐ นาย ระหว่างวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ – วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๖ นาน ๑ เดือน กับ ๑๓ วัน กองทัพมาเลเซียได้รับชัยชนะและครั้งที่สอง การรบที่เมืองมาราวี ที่เพิ่งยุติลง เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐) รถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่เอเอวีพี-๗เอ๑ (สหรัฐอเมริกาได้วิจัยพัฒนาและทำการผลิตนำเข้าประจำการปี พ.ศ.๒๕๑๕ ข้อมูลที่สำคัญคือ น้ำหนัก ๒๙.๑ ตัน ยาว ๗.๙๔ เมตร กว้าง ๓.๒๗ เมตร สูง ๓.๒๖ เมตรเครื่องยนต์ ดีเซล (8V-53T) ขนาด ๔๐๐ แรงม้า ความเร็วบนถนน ๗๒ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วในภูมิประเทศ ๓๒ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วในทะเล ๑๓.๒ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ ๔๘๐ กิโลเมตรอาวุธปืนกลหนัก (M-2HB) ขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็มเค.๑๙ (Mk.19) ขนาด ๔๐ มิลลิเมตรและบรรทุกทหารได้ ๒๔ นาย (พลประจำรถ ๓ นาย + นาวิกโยธิน ๒๑ นาย) มีการผลิต ๒ รุ่น ประกอบด้วยรุ่นแอวีทีพี-๗ (LVTP-7) พ.ศ.๒๕๑๕ ปืนกลหนัก ๑๒.๗ มิลลิเมตร(0.5 นิ้ว) และรุ่นแอลวีทีพี-๗เอ๑ (LVTP-7A1) ปรับปรุงใหม่ พ.ศ.๒๕๒๕ ต่อมามีชื่อเรียกใหม่ว่าเอเอวีพี-๗เอ๑ ปี พ.ศ.๒๕๒๗ โดยแบ่งเป็นรุ่นย่อยอีก ๓ รุ่นคือรุ่นเอเอวีพี-๗เอ๑ ภารกิจลำเลียงพล ติดตั้งอาวุธ ใหม่ประกอบด้วย ปืนกลหนัก ๑๒.๗ มิลลิเมตร (กระสุน ๗๖๘ นัด) และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด ๔๐ มิลลิเมตร (กระสุน ๑,๐๐๐ นัด), รุ่นเอเอวีซี-๗เอ๑ (AAVC-7A1) รถบังคับการได้ติดตั้งระบบสื่อสารเพิ่มเติมหลายชุดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยุ และรุ่นเอเอวีอาร์-๗เอ๑ (AAVR-7A1) รถกู้ซ่อมติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑ หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกานำออกปฏิบัติการทางทหารในหลายสมรภูมิที่สำคัญทั่วโลกคือสมรภูมิอ่าวเปอร์เซียครั้งที่สอง โดยกองพลนาวิกโยธินที่ ๑ จากรัฐเซ้าคาโรไลน่า กำลังรบหลักคือกองพันสะเทินน้ำสะเทินบกที่ ๒ และกองพันสะเทินน้ำสะเทินบกที่ ๓ ห้วงดำเนินกลยุทธ์ระหว่างวันที่ ๑๙ มีนาคม – วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖ เข้าตีประเทศอิรักจากทางด้านใต้รุกจากแนวชายแดนประเทศคูเวต ผ่านจากแนวออกตีเข้าสู่เขตแดนประเทศอิรักรุกขึ้นเหนือ (ทางด้านปีกขวา และปีกซ้ายคือกองพลทหารราบยานเกราะที่ ๓ ) สู่กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก มีการต่อสู้ตลอดแนวของเส้นหลักการรุกสู่เป้าหมาย การรบครั้งสำคัญคือการรบที่เมืองนาซิริย่าฮ์ (Battle of Nasiriyah) เมืองชายฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส (ประชากร ๐.๕๖ ล้านคน) ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงหรือกรุงแบกแดด เป็นระยะทาง ๓๖๒ กิโลเมตรเริ่มจากกองร้อยซ่อมบำรุงที่ ๕๐๗ เป็นขบวนสัมภาระรบ เคลื่อนที่ตามกองพลทหารราบยานเกราะที่ ๓ เกิดการเลี้ยวผิดเส้นทางจึงเข้าไปอยู่ในเขตทหารของกองทัพบกอิรักจึงถูกซุ่มโจมตีจากกำลังฝ่ายอิรักด้วยอาร์พีจี-๗ (RPG-7) และปืนเล็กยาวแบบเอเค-๔๗ (AK-47) ได้รับความเสียหาย เวลาประมาณตอนเช้าตรู่ทหารนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาจากกองร้อยซีกองพันที่ ๑ – ๒ พร้อมด้วยรถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑ รวม ๒ คัน หน่วยอยู่ใกล้ที่สุดจึงได้เข้าช่วยเหลือเกิดการปะทะอย่างรุนแรงเป็นการต่อสู้ภายในเมือง ฝ่ายข้าศึก (หน่วยเฟเดยีน) ใช้ยุทธวิธีการซุ่มยิงจากที่สูงของอาคารมายังรถเอเอวีพี-7เอ1เวลาใกล้เที่ยงรถติดหล่มหนึ่งคันทหารนาวิกโยธินต้องออกจากรถสู่พื้นดินจึงเป็นการรบทางพื้นดินในระยะใกล้ ฝ่ายข้าศึกจึงได้เพิ่มกำลังพลเข้าปิดล้อมมากยิ่งขึ้น นาวิกโยธินจึงได้เพิ่มกำลังเข้าช่วยเหลือช่วงบ่ายเครื่องบินโจมตีไอพ่นแบบเอ-๑๐ (A-10) กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาจึงเข้ามาสนับสนุน แต่สถานการณ์การสู้รบได้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากจากมุมสูงเป็นผลให้นักบินมองเป็นรถรบของฝ่ายข้าศึกจึงเข้าโจมตีได้รับความเสียหายการติดต่อสื่อสารก็มีความยุ่งยากเนื่องจากอยู่ใกล้กับสายไฟฟ้าแรงสูง ต่อมารถถังหลักแบบเอ็ม-๑เอ๑ (M-1A1) ของนาวิกโยธินรวม ๓ คัน (หลังจากที่ได้รับการเติมน้ำมันและส่งกำลังบำรุง) ได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าคลี่คลายสถานการณ์สามารถจะผลักดันให้ฝ่ายข้าศึกถอนตัว ทหารจากกองร้อยซ่อมบำรุงเสียชีวิต ๑๑ นาย ถูกจับตัวเป็นเชลย ๖ นาย ทหารสหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะ แต่สูญเสียทหาร ๓๒ นาย, ได้รับบาดเจ็บ ๖๐ นาย ถูกจับเป็นเชลยศึก ๖ นาย และรถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑ เสียหาย ๘ คัน (ยานยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น ๑๕ คัน) ฝ่ายอิรักสูญเสียกำลังพล ๓๕๙ – ๔๓๑ นาย ได้รับบาดเจ็บกว่า ๑,๐๐๐ นาย และถูกจับกว่า ๓๐๐ นาย ห้วงปฏิบัติการระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๖ รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑ ยังคงมีความทันสมัยอยู่ ปัจจุบันประจำการ ๗ ประเทศมียอดผลิตกว่า ๑,๑๕๗ คัน (หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาประจำการ ๑,๓๑๑ คัน)หน่วยนาวิกโยธินอินโดนีเซีย (KOMAR, TNI-AL) ประจำการด้วยรถสะเทินน้ำสะเทินบกเคเอเอวีพี-๗เอ๑ (KAAVP-7A1) รวมทั้งสิ้น ๑๕ คัน (ได้รับการช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีใต้ปี พ.ศ.๒๕๕๒) เป็นหน่วยขนาด ๒ กองพลนาวิกโยธิน (กองพลที่ ๑ เมืองสุราบายา จังหวัดชวาตะวันออกและกองพลที่ ๒ อยู่ที่ชวาใต้) และกองพลน้อยนาวิกโยธินอิสระที่ ๓ ตอนใต้ของเกาะสุมาตรา หน่วยนาวิกโยธินไทยประจำการด้วยรถสะทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑ รวม ๓๖ คัน (AAVP-7A1/AAVC-7A1/AAVR-7A1) ประจำการที่กองพลนาวิกโยธิน จังหวัดชลบุรีหน่วยนาวิกโยธินไทยทำการฝึกกับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาเป็นประจำในรหัสการัท(CARAT) ทำการฝึกยกพลขึ้นบกเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๙ รหัสการัท (CARAT 2016) พื้นที่ฝึกจังหวัดชลบุรี
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑(AAVP-7A1)หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา
ขณะทำการฝึกโดยการเคลื่อนที่บริเวณชายฝั่งทะเล
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเคเอเอวี-๗เอ๑(KAAV-7A1)หน่วยนาวิกโยธินเกาหลีใต้
ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ(มีแผ่นเกราะทางด้านข้าง)
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑(AAVP-7A1)ขณะเคลื่อนที่ในทะเลจากเรือ
ระบายพลเข้าสู่ชายฝั่งทะเลไปยังพื้นที่เป้าหมาย
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑(AAVP-7A1)พร้อมอาวุธประกอบด้วยปืน
กลหนักขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร(๐.๕ นิ้ว)และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด ๔๐
มิลลิเมตร
ระบบอาวุธของรถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑(AAVP-7A1)ประกอบด้วย
ปืนหนักขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร(๐.๕ นิ้ว)และเครื่องยิงลุกระเบิดอัตโนมัติขนาด ๔๐
มิลลิเมตร ช่วยให้มีขีดความสามารถในการยิงเพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นแรก
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเคเอเอวี-๗เอ๑(KAAV-7A1)หน่วยนาวิกโยธินอินโดนีเซีย
ขณะเตรียมตัวทำการฝึกในรหัส ลัทแก็บ๒๐๑๓(LATGAB 2013)ห้วงวันที่ ๑๕ เมษายน
ถึงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖
รถสะเทินน้ำสะเทินบกแบบเอเอวีพี-๗เอ๑(AAVP-7A1)หน่วยนาวิกโยธินกองทัพเรือ
ไทยขณะทำการฝึก เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔