กระบวนการแก้ปัญหาไฟใต้ของภาครัฐ ได้รุกคืบหน้าไปอย่างมั่นคงจนเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง แม้จะมีกลุ่มคนหัวแข็งคอยหาจังหวะโอกาสในการป่วนเอง สร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้อยู่บ้าง แต่ก็สามารถทำได้เพียงเล็กๆ น้อยๆ เชิงสัญลักษณ์มากกว่าการก่อเหตุร้ายใหญ่ๆ ได้อย่างเช่นที่ผ่านมา ด้วยกระบวนการดับไฟใต้ของภาครัฐในทุกมิติ ได้มีการขับเคลื่อนไปอย่างมีจังหวะก้าวที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ที่วิวัฒนาการไป
กระบวนการพูดคุยสันติสุขก็รุกคืบไปอย่างมั่นคง ก่อให้เกิดการเห็นหน้าเห็นหลังของสภาวะที่เรียกว่า “สันติสุข” มากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ภายใต้ชื่อ “มารา ปาตานี” ว่าจะกำหนด “พื้นที่ปลอดภัยนำร่องอำเภอแรกร่วมกัน” โดยมีระยะเวลาการทำงานให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน ๖ เดือน จากข้อมูลการพูดคุย พบว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ในขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งในห้วงเวลา ๖ เดือนนับจากนี้ คือการเปิด “เซฟเฮาส์” หรือ “ศูนย์ประสานงาน” ในพื้นที่ชายแดนใต้ เพื่อให้ตัวแทนฝ่ายรัฐฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ และภาคประชาสังคมได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งล่าสุดคณะพูดคุยฯ ได้ข้อตลลงที่จะได้สถานที่ที่จะเปิดเป็น “ศูนย์ประสานงาน”หรือ “เซฟเฮาส์” เรียบร้อยแล้วแต่สาเหตุที่ยังไม่ประกาศให้สังคมได้ทราบ ก็เนื่องจากต้องมีการหารือเตรียมพื้นที่ให้เกิดความพร้อมเสียก่อน ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ ๔ – ๖ เดือน โดยหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาล ย้ำว่า การทำงานไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการทำพื้นที่ให้ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังมีแผนพัฒนาร่วมกัน และการทำพื้นที่ให้ปลอดยาเสพติดด้วย ที่สำคัญไม่ได้แปลว่าเมื่อมีพื้นที่ปลอดภัยแล้วต้องถอนทหารออกไป เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่เพิ่มบทบาทของภาควิชาการและภาคประชาสังคมให้มากขึ้นเท่านั้น
Cr. พันเอก ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ