พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้รับทราบรายงาน สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติด พบยังคงมีเส้นทางลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังพบการกระจายตัวอยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งหลังจาก รัฐบาล โดยฝ่ายความมั่นคงร่วมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดทั่วประเทศในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ( มิ.ย. – ก.ค. 61 ) มีผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกว่า 76,000 คน ยึดยาบ้าได้เกือบ 70 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 23,00 กก. เฮโรอีน 30 กก.รวมทั้งกัญชาแห้ง ฝิ่นและพืชกระท่อม กว่า 25,000 กก. มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท โดยการจับกุมสามารถยึดยาเสพติดได้ครั้งละกว่า 5 ล้านเม็ด
พล.อ.ประวิตร’ ได้สั่งการฝ่ายความมั่นคง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร โดยเฉพาะตำรวจ ร่วมกับหน่วยงาน ป.ป.ส. ต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้นและให้ความสำคัญ ในการขยายผลจากการสอบสวนจับกุม เชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกร่วมกันให้ถึงเส้นทางและเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อติดตามจับกุมขยายผลนำไปสู่การดำเนินคดีและยึดทรัพย์ตัวการใหญ่ให้ได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ขอให้ฝ่ายความมั่นคงในทุกจังหวัด ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน โดยลงพื้นที่ปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งพักยาและเครือข่ายกระจายยาเสพติดเข้าชุมชนอย่างจริงจัง ควบคู่กับ การสร้างความร่วมมือกับชุมชน ร่วมกันทำหน้าที่เครือข่ายเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ในลักษณะ “ปรบมือร่วมกัน” ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร’ ยังกล่าวย้ำว่า หากชุมชนใดรับรู้ได้ว่า ยังมีแหล่งผลิต การเสพและการขายยาเสพติดในพื้นที่โดยถือเป็นเรื่องปกติ จะเป็นตัวประเมินถึงขีดความสามารถของกลไกฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ที่จะต้องทำงานหนักร่วมกันให้มากขึ้น