เมื่อ 28 ม.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้ให้การต้อนรับ นาย Giuseppe De Vincentiis (จูเซ็ปเป้ เด วินเซ็นทิส ) ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ( UNHCR ) ณ ศาลาว่าการกลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของ UNHCR ในการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือ และหาทางออกที่ยั่งยืนแก่ผู้ลี้ภัย เด็ก และสตรี มามากกว่า 40 ปี ปัจจุบันไทยมีผู้ลี้ภัย ที่พำนักในเขตเมืองประมาณ 4,600 คนโดยภาพรวมสถานการณ์พัฒนาไปเชิงบวก ขณะเดียวกันในการดูแลผู้หนีภัย ไทยให้ความสำคัญต่อการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และเคารพสิทธิมนุษยชนของผู้หนีภัย ควบคู่กับได้พัฒนาความรู้และศักยภาพของผู้หนีภัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางกลับมาตุภูมิ โดยยึดหลักความปลอดภัยและหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนั้น ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆของไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ว่าด้วยการกำหนดมาตรการและแนวทางการกักตัวเด็กไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐในการคำนึงถึงสิทธิของเด็กและเยาวชนร่วมกัน
นายจูเซ็ปเป้ เด วินเซ็นทิส ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัยและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยที่ผ่านมา ทั้งเด็ก สตรี รวมทั้งผู้ลี้ภัยที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว พร้อมทั้งขอแสดงความขอบคุณทางการไทย ที่ไม่ส่งบุคคลที่ร้องขอไปยังที่เสียงต่อชีวิต โดยทราบดีถึงกรณีผู้ลี้ภัย มีความละเอียดอ่อนและมีความท้าทายร่วมกัน โดย UNHCR ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างจริงใจ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการส่งกลับผู้ลี้ภัยอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพต่อไป โดยเฉพาะความร่วมมือกัน ในการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบจากเมียนมา กลับมาตุภูมิโดยสมัครใจครั้งที่ 3 ที่จะมีขึ้นในต้นปีนี้