เมื่อ 28 มี.ค. 62 : 1000 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อมอบนโยบายและเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแผนการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกดูแลพี่น้องประชาชน โดยมีสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ด้านการถวายความปลอดภัย ในพื้นที่พระราชพิธีและเส้นทางเสด็จ กำหนดแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบถวายความปลอดภัยสูงสุด โดยมีจุดคัดกรองควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆตามเส้นทางหลัก ให้มีผลกระทบน้อยที่สุดกับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ใช้กริยาวาจาที่สุภาพเหมาะสม
ด้านการรักษาความปลอดภัย ได้เตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน 3 พื้นที่ เพื่อรองรับประชาชนทั้งพื้นที่ชั้นในรอบพื้นที่พระราชพิธี พื้นที่ชั้นกลางรองรับประชาชนในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ชั้นนอกรองรับประชาชนจากปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานคร.
ด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน จะกำหนดปิดการจราจรในเส้นทางเท่าที่จำเป็น เฉพาะช่วงเวลาและจะเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงโดยรอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุดแนะนำ พร้อมกันนี้ ได้จัดรถโดยสารบริการรับส่งประชาชน จากจุดจอดรถเข้ามาพื้นที่รวมพล โดยรอบพื้นที่งานพระราชพิธี ประกอบด้วย บ้านพิษณุโลก , บ้านมนังคศิลา , วัดเทพศิรินทร์ , สวนสาธารณะสะพานพระพุทธยอดฟ้า , เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี โดยทุกพื้นที่รวมพล จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงครัวพระราชทาน ห้องสุขา การบริการด้านสุขภาพ การแสดงดนตรีและนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ
พล.อ.ประวิตร’ ได้ย้ำว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพิธีสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์และถือเป็นเกียรติยศสูงสุดที่เจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการได้ทำงานร่วมกัน ขอให้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมมอบเป็นนโยบาย ขอให้ความสำคัญ มาตรการงานข่าวเชิงลึกและเตรียมการถวายความปลอดภัยสูงสุด โดยให้มีการซักซ้อมทำความเข้าใจการปฏิบัติงานตามแผนงานให้รอบคอบ รัดกุม โดยเฉพาะการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัย การขนส่งและการจราจร รวมทั้งงานบริการทางการแพทย์ พร้อมทั้ง ขอให้ร่วมกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในภาพรวมทุกจังหวัด
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือทุกส่วนราชการ ได้เตรียมความพร้อมพิธีพลีกรรมตักนำ้ ที่จะจัดให้มีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เม.ย.62 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างสมพระเกียรติ โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมทุกจังหวัดพร้อมกัน ตั้งแต่ 29 มี.ค. 62 มีผู้ว่าราชการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นประธาน ในการจัดทำแผนและประสานการทำงานร่วมกันของทุกส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่เข้าร่วมเตรียมนำ้พระราชพิธีให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ