เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยมี พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ
สืบเนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานได้จัดโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูและพัฒนาลำน้ำ คูคลอง เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน สำหรับในส่วนของกระทรวงกลาโหม ได้มีการดำเนินการพัฒนาพื้นที่โดยรอบศาลาว่าการกลาโหมเพื่อสนับสนุนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในห้วงที่ผ่านมา ที่สำคัญ ได้แก่ การขุดลอกคลองคูเมืองเดิม และคลองหลอดให้เป็นคลองที่มีความใสสะอาด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมสองฝั่งคลองคูเมืองเดิม คลองหลอดวัดราชนัดดา และคลองหลอดวัดราชบพิตร ให้เหมาะสมสวยงาม รวมทั้งการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดิน และการดำเนินการกับบุคคลเร่ร่อนที่ลักลอบมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชน
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมมีแนวความคิดที่จะร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และภาคเอกชน จัดทำโครงการเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำคลองคูเมืองเดิมที่เชื่อมจากแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าฯ ไปยังปากคลองตลาด ระยะทาง ๑.๗ กิโลเมตร รวมทั้งคลองเชื่อมต่อ ได้แก่ คลองหลอดวัดราชนัดดา และคลองหลอดวัดราชบพิตร ให้มีความใสสะอาด สวยงามอย่างยั่งยืน
โดยในการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมสองฝั่งคลองคูเมืองเดิมและคลองหลอดให้เหมาะเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสันทนาการ เช่น การปลูกไม้ประดับ การปรับปรุงส่วนหย่อม และพื้นที่ฟุตบาทให้มีความสวยงามเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ชุมชนโดยรอบกระทรวงกลาโหมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียง ด้วยการปลุกฟื้นคืนชีวิตให้ชุมชนควบคู่ไปกับการสืบค้นเรื่องราวประวัติศาสตร์ดั้งเดิมที่มีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ปรับปรุงสถาปัตยกรรมเดิมที่มีอยู่แล้วให้สวยงาม สืบค้นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการบูรณาการร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชน ในการสร้างสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัย และการปรับปรุงพื้นที่ไม่ให้มีแหล่งเสื่อมโทรมอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการบ่มเพาะอาชญากรรมในพื้นที่ ซึ่งมีจุดเสี่ยงอยู่ในชุมชนเป็นจำนวนมาก โดยระยะเวลาของการดำเนินโครงการตั้งแต่ ก.ค. – มิ.ย.๖๔