พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห.เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน ครั้งที่13 (ASEAN Defence Minister’Meeting)ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่10-12ก.ค.62 โดยชูประเด็น ความมั่นคงที่ยั่งยืน ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนได้ร่วมในพิธีลงนามในการที่จะร่วมกันสร้างความมั่นคงที่ยังยืนรวมทั้งยังได้มีการรับรองเอกสารความร่วมมือจำนวน 6 ฉบับได้แก่
1)การประเมินผลการปฏิบัติของความคิดริเริ่มในกรอบADMM
2)บทบาทของฝ่ายทหารอาเซียนในการสนับสนุนการบริหารจัดการชายแดน
3)การขยายโครงสร้างการสื่อสารโดยตรงของประเทศสมาชิกอาเซียนไปยังประเทศคู่เจรจา
4)ขอบเขตการปฏิบัติงานโครงการ ASEAN Our Eyes
5)การจัดตั้งกลไกการประชุมแพทย์ทหารอาเซียน
6)แนวทางปฏิบัติในการปฏิสัมพันธ์ทางทะเล
ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมอาทิ
1)ด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติ ได้มีการจัดตั้งกองกำลังเตรียมความพร้อมอาเซียน เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพและในปีนี้ได้บรรจุศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนไว้ในกฎบัตรอาเซียนเพื่อยกระดับความร่วมมือทางการแพทย์และเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยเหลือภัยพิบัติ
2)ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายได้มีการจัดตั้งกลไกอาเซียน our eyes เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารทางยุทธศาสตร์ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อแก้ปัญหาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
3)ด้านอาชญากรรมข้ามชาติได้ริเริ่มกลไกของฝ่ายทหารในการบริหารจัดการชายแดนเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ตระหนักรู้ในผลกระทบของภัยพิบัติรวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ การฝึกเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการชายแดนให้มีความเข้มแข็ง
โดยประชาชนจะได้รับความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต ทั้งการกินการอยู่ การค้าการลงทุนและการเดินทางไปมาหาสู่กัน รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติหรือภาวะวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสภาวะแวดล้อมที่มั่นคงนั้นจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมไปพร้อมกัน และมุ่งแสวงหาความร่วมมือใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นและความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียนให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
นอกจากการประชุมที่เกิดขึ้นของทุกประเทศรรวมกันแล้ว ยังมีการประชุมย่อยระหว่างประเทศ ที่เรียกว่าการหารือทวิภาคีอีกด้วย โดยประเทศไทยหารือทวิภาคีกับทั้ง9ประเทศและสำนักเลขาธิการอาเซียนด้วย เนื้อหาในการหารือนั้นจะเป็นประเด็นปลีกย่อยและรายละเอียดลงไปในแต่ละประเทศ เพื่อสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงที่ยั่งยืนตามประเด็นหลักของการประชุม
โดยภาพรวมของการหารือนั้นไทยได้ขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนที่สนับสนุนการดำเนินงานในการเป็นเจ้าภาพของไทย รวมถึงการที่ประเทศสมาชิกอาเซียนสนับสนุนให้ศูนย์แพทย์ทหารอาเชียนเข้าไปอยู่ในกฎบัตรอาเซียนเป็นผลสำเร็จและขอให้สนับสนุนการฝึกร่วม ไทย-จีน ด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และการฝึกร่วมผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐอเมริกา
สำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนก็ได้กล่าวชื่นชมไทยในการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมครั้งนี้ อย่างสมเกียรติและพร้อมให้การสนับสนุนการฝึกที่จะมีขึ้นตามที่ไทยร้องขอ ส่วนประเด็นปลีกย้อยของแต่ละประเทศนั้นก็จะได้ดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
โดยในช่วงท้ายของการหารือทวิภาคี ทั้ง10ประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนได้ให้คำมั่นร่วมกัน ในการที่จะนำมาซึ่งความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค
ท้ายที่สุดนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกคน สื่อมวลชนทุกแขนงที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีตลอดห้วงของการจัดการประชุม ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก
ความสำเร็จของการประชุมในครั้งนี้ มิใช่เป็นความสำเร็จของกระทรวงกลาโหม เท่านั้นแต่เป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศและประชาชนอาเซียนร่วมกัน