กระทรวงกลาโหม จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม (๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓) อย่างเรียบง่าย สอดคล้องกับแนวทางและมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVIC-19) ของกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา กระทรวงกลาโหมจึงได้กำหนดจัดงานเป็นการภายใน โดยจัดพิธีถวายราชสักการะและถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ ในศาลาว่าการกลาโหม (๕ แห่ง) และพิธีสงฆ์ (ถวายสังฆทาน) ณ พุทธสถาน (ห้องเจ้าพ่อหอกลอง) ชั้น ๓ ในศาลาว่าการกลาโหม โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี
กระทรวงกลาโหม ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาญาณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นเวลา ๑๓๓ ปีมาแล้ว ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมเป็นองค์กรหลักด้านความมั่นคง ที่มีหน้าที่ในการพิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตทีประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์ของชาติความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตลอดจน การพัฒนาประเทศ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญและความเร่งด่วนสูงสุดในการพิทักษ์ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสมพระเกียรติ
ด้านการดำเนินงานกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการเผชิญกับภัยคุกคามข้ามชาติ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ พัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบบูรณาการ ทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ ตลอดจนสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ ของชาติ โดยใช้ศักยภาพของทหารในการดำเนินการ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน อาทิ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การค้ามนุษย์ การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาหนักที่สุด ในรอบ 20 ปี การแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามแนวชายแดนและ ทางทะเล การส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน
ด้านการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID – 19 กระทรวงกลาโหมได้ให้การสนับสนุน การดำเนินการของ “ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด – 19 โดยประสานและบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการพัฒนากองทัพนั้น ได้มีการพัฒนาความพร้อมให้สามารถรับมือภัยคุกคามและภัยพิบัติ ได้ทุกรูปแบบควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ ในปัจจุบันและในอนาคตมุ่งสู่การเป็นกองทัพชั้นนำ มีบทบาทสำคัญในด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐเพื่อนำไปสู่การเป็น “กองทัพที่มีความพร้อมในการป้องกันและรักษาอธิปไตยของประเทศ และเผชิญกับภัยคุกคามได้ทุกมิติ ทุกรูปแบบ และทุกระดับ”