พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห.และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห.ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19
ภาพรวมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ ในพื้นที่ชายแดนยังคงพบจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาจับกุมได้ 288 คน โดยพบชาวลาวและกัมพูชามากขึ้น สำหรับพื้นที่ชั้นในได้กระจายกำลังกันทำหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลประชาชน ตามมาตรการควบคุมโรคตามข้อกำหนดของ ศบค.ในพื้นที่สีแดงเข้ม จากการตั้งจุดตรวจร่วมตามเส้นทางต่างๆ และชุดสายตรวจเคลื่อนที่ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนด พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและร่วมมือกันมากขึ้นในการหยุดเชื้อ โดยพบการเดินทางลดลงและมีการทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนมาตรการต่างๆลดลงตามลำดับ
พล.อ.ชัยชาญ’ ได้ย้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห.ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ประสานกับ สธ. พิจารณาปรับปรุงสโมสรทหารและตำรวจ ในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย หรือ รพ.สนาม ตามความเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่พักคอยและรักษาผู้ป่วย รองรับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ และให้ กห.ประสานกับ อว. (กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ) สนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ร่วมกับ รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัย รองรับดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆเสริมไปด้วยกัน
พร้อมกันนี้ นรม.และรมว.กห.ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน” ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จว.โดยให้ประสานทำงานร่วมกับ กทม. ฝ่ายปกครองและและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ทันทีภายใต้มาตรการที่สาธารณสุขกำหนด
พร้อมกันนี้ พล.อ.ชัยชาญ’ ได้กำชับทุกเหล่าทัพ ให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา ที่สถานการณ์ของโรคระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น และขอให้ ตร.ให้การดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองเข้มในสถานกักควบคุมโรคที่กำหนด ทั้ง 8 แห่งใน 6 จว. พร้อมทั้ง ขอให้ดำรงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การบริจาคโลหิตให้กับผู้ป่วยเจ็บ ที่ยังอยู่ในสภาวะขาดแคลนเลือด ทั้งนี้ ขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับกำลังพลในพื้นที่ด่านหน้าเป็นลำดับแรก หากได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่ม