รองนรม.และรมว.กห. ได้กำชับและให้ความสำคัญกับกลไกบริหารงานระดับพื้นที่ ซึ่งถือเป็นกลไกหลัก ที่จะต้องขับเคลื่อนงานร่วมกับทุกส่วนราชการและภาคประชาชนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และมอบเป็นนโยบาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ บริหารขับเคลื่อนงานในลักษณะบูรณาการร่วมกับทุกส่วนราชการในพื้นที่และภาคประชาสังคมให้มากขึ้น. รวมทั้งเร่งรัดบริหารจัดการงบประมาณตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยยึดหลักธรรมมาภิบาลและความโปร่งใส มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนในภาคการเกษตร ด้วยการเร่งรัดพัฒนาแหล่งนำ้ในพื้นที่ โดยให้ มท.และทส. ร่วมกับทหาร เร่งรัดดำเนินการสำรวจและขุดลอกคูคลอง หนองบึงในชุมชนพื้นที่แล้งน้ำให้กว้างและลึกขึ้น เพื่อรองรับน้ำในฤดูฝนอันใกล้ พร้อมกับบริหารจัดการเชื่อมโยงแหล่งนำ้ในพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

พร้อมกับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดจัดทำแผนงานโครงการเร่งด่วน ในการพัฒนาแหล่งนำ้แบบบูรณาการในพื้นที่ อ.ท่าหลวง จว.ลพบุรี ซึ่งครอบคลุมในพื้นที่ 6 ตำบล ในแนวทางประชารัฐให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อรักษาป่าต้นนำ้ พื้นที่ป่าจำปีสิรินธร และบริหารจัดการนำ้ในแอ่งเก็บนำ้ใกล้เคียง ด้วยการกระจายนำ้เข้าพื้นที่การเกษตรให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆของทุกตำบล เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตนำ้แล้ง

ทั้งนี้ รองนรม.และรมว.กห.ได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “การดำเนินการที่กล่าวมานี้ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้ร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาในทุกระดับ เพื่อให้โครงสร้างระดับหมู่บ้าน ชุมชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง”

หลังจากนั้น รองนรม.และรมว.กห. และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการขุดเจาะบ่อบาดาล ฝายนำ้ล้นด้านบนของป่าจำปีสิรินธรและรับทราบการแก้ปัญหาของป่าจำปีสิรินธร รวมทั้งปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง จว.ลพบุรี