ผลการเดินทางเยือน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อย่างเป็นทางการ ของรอง นรม. และ รมว.กห.

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยถึง ผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อย่างเป็นทางการ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. พร้อมคณะ ณ กรุงเนปียดอ ระหว่าง 29 – 30 มิ.ย.59 ว่า

เมื่อเดินทางถึง รองนรม.และรมว.กห.พร้อมคณะได้เยี่ยมคำนับและหารือกับ พล.ท เส่ง วิน รมว.กห.เมียนมา ณ กระทรวงกลาโหม ต่อจากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมคำนับและหารือกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ณ กองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีมิตรไมตรี ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางทหารและการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน โดยเห็นพ้องร่วมกันที่จะแลกเปลี่ยน การเยือน การฝึกศึกษา ในระดับต่างๆของทุกเหล่าทัพให้มากขึ้น พร้อมทั้งเห็นถึงความสำคัญ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น ทั้งเรื่องเขตแดน ผู้หนีภัยจากการสู้รบ การหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อาชญกรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย การลักลอบนำสินค้าผิดกฏหมายผ่านแดนและปัญหายาเสพติด

โดยจะร่วมกันพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการร่วม เพื่อผลักดันขับเคลื่อนนโยบายความมั่นคง สู่การปฏิบัติผ่านกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงที่มีอยู่ให้เป็นรูปธรรมเร็วขึ้น พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและแข็งขันต่อปัญหายาเสพติดและการก่อการร้าย โดยจะร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลและเข้มงวดกวดขันการผ่านเข้าออกทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันเมียนม่าจะดำเนินการปราบปรามยาเสพติดควบคู่กับการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มต่างๆด้วยวิธีทางการทูต เพื่อสร้างความสงบสุขในพื้นที่ ก่อนที่จะรับผู้หนีภัยจาการสู้รบกลับถิ่น สำหรับความร่วมมือด้านการปักปันเขตแดน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการตั้งแต่ทางตอนใต้ ด้านเกาะสองขึ้นมา โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันเชิญชวนประชาชนทั้งสองประเทศร่วมกันปลูกป่าเพื่อร่วมกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ตามแนวชายแดนร่วมกัน

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม.และรมว.กห.พร้อมคณะ ได้เดินทางไปทำเนียบประธานาธิบดี โดยได้เข้าพบและหารือกับ นาง อ่องซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่า ถึงการสานต่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในการปักปันเขตแดน ผู้หนีภัยจากการสู้รบ ความร่วมมือในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวาย รวมทั้งการพัฒนากิจการตำรวจ โดยเฉพาะการดูแลสวัสดิการแรงงานเมียนมาในไทย ซึ่งถือว่าได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศ.

โดยนางอ่องซาน ซูจี ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นรม.ที่ได้ให้การต้อนรับการไปเยือนประเทศไทยที่ผ่านมาอย่างอบอุ่นมีมิตรไมตรี พร้อมทั้งขอขอบคุณ รัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสวัดิภาพแรงงานเมียนมาในไทยตามกรอบกฏหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน ที่ได้จัดทำให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งเป็นที่พอใจทั้งแรงงานและรัฐบาลเมียนมา สำหรับการพัฒนากิจการตำรวจนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีหากสามารถแลกเปลี่ยนศึกษาและดูงานร่วมกัน พร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่คอยดูแลตลอดการเยือนที่ผ่านมา. สำหรับปัญหาผู้ลี้ภัยจากการสู้รบที่อยู่ในไทยนั้น. จะได้ร่วมกันจัดคณะกรรมการร่วมตรวจสอบเอกสาร เพื่อให้สามารถดำเนินการโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็เห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมกันพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันทั้งสองประเทศ.

…ทั้งนี้ นางอ่องซาน ซูจี ได้กล่าวย้ำถึง ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย- เมียนมาในปัจจุบันว่า อยากให้เป็นตัวอย่างของพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ที่มีเขตแดนที่ติดกัน โดยร่วมพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆร่วมกันให้หมดไป ร่วมสร้างความรักใคร่ในหมู่ประชาชนทั้งสองประเทศ ขยายออกไปสู่ภูมิภาค ประชาชนซึ่งเป็นทรัพยาการมนุษย์มีความสำคัญยิ่งที่ต้องพัฒนาตนเองควบคู่กับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลไทยก็ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนในปัจจุบัน

หลังจากนั้นได้ รองนรม.และรมว.กห.พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคำนับและหารือกับนายติน จ่อ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา. โดยได้รายงานให้ทราบถึงการหารือร่วมกันกับ รมว.กห.และผบ.ทหารสูงสุด รวมทั้งที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาที่ผ่านมา โดยนายติน จ่อ กล่าวว่า ความร่วมมือที่ผ่านมาและการเยือนไทยของ ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่า ที่ผ่านมา แสดงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่แนบแน่นเป็นอย่างดีและเป็นที่พึงพอใจของประชาชนเมียนมาอย่างมาก

ประธานาธิบดีเมียนมา ได้ถือโอกาสนี้ กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงเมตตาบริจาคทุนทรัพย์ ซ่อมแซมโรงเรียนในรัฐยะไข่ ที่ได้รับความเสียหายจากมรสุมในปีที่ผ่านมา. พร้อมทั้งเห็นร่วมกันว่าความร่วมมือกันก่อสร้างสะพานเมียวดีแห่งใหม่ เชื่อมต่อถนนสายเอเซีย ทางอ.แม่สาย จว.เชียงราย จะผลักดันให้เกิดการค้า การลงทุน สู่การพัฒนาเศรษฐกิจทั้งสองประเทศร่วมกัน. โดยเชื่อมั่นว่า จะเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษและเศรษฐกิจชายแดนของทั้งสองประเทศ ที่เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป.

 

S__6479909 S__6479910

S__6479911 S__6479912 S__6479913 S__6479915 S__6479916 S__6479919 S__42058007 S__42058012