วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2567) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม และคณะของกระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในกิจกรรมพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ภายใต้โครงการนำร่อง “หนองวัวซอโมเดล” ในพื้นที่สนามฝึกยิงปืนใหญ่ของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ที่อยู่ในความดูแลของมณฑลทหารบกที่ 24 มอบให้แก่กรมธนารักษ์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ณ สนามหน้าที่ว่าการ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
โดยในบริเวณพื้นที่จัดงานดังกล่าว คณะได้มีการเยี่ยมชมการแสดงบอร์ดนิทรรศการและพูดคุยถึงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1) ความเป็นมาของโครงการฯ และข้อมูลของผู้รับสัญญาเช่า (กรมธนารักษ์) 2) การบริหารจัดการพื้นที่ในความครอบครองของกองทัพบกและแผนการใช้พื้นที่ในการฝึก (กองทัพภาคที่ 2) 3) การส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนที่ได้รับสัญญาเช่า (กอ.รมน.จังหวัดอุดรธานี) และ 4) แนวทางการพัฒนาพื้นที่ที่ประชาชนได้รับสัญญาเช่า (กรมการทหารช่าง)
และเมื่อเวลา 10:20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันกระทำพิธีเปิดในการมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ อด.1816 ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (เนื้อที่ 9276-1-87 ไร่)
ให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 434 ราย 584 แปลง (แบ่งเป็นสัญญาเช่าเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 104 แปลง และสัญญาเช่าเพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 480 แปลง) โดยกรมธนารักษ์ได้กำหนดอัตราค่าเช่าในลักษณะผ่อนปรน รวมถึงการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ และผู้เช่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเช่า อาทิ การนำสิทธิการเช่าไปผูกพันเงินกู้ได้ ซึ่งจากการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวที่เป็นพื้นที่นำร่องนั้น ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี รวมถึงจะส่งผลทำให้เป็นต้นแบบการดำเนินโครงการในพื้นที่แปลงอื่นๆ ตามที่กำหนดแผนงานไว้ได้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมต่อไป
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า “การดำเนินนโยบายดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมถึงเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนภายใต้นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ“
จากนั้นประมาณเวลา 12.15 น. คณะยังได้พบปะกับประชาชนและเยี่ยมชมกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ที่ทาง จ.อุดรธานี และกองทัพบก พร้อมใจจัดมาให้บริการแก่ประชาชน อาทิ การบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลหนองวัวซอ และ โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม, การแสดงดนตรี Smile Army จากกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, บริการตัดผมฟรี, การนำเสนอผลผลิตในโครงการทหารพันธุ์ดี, การจัดรถครัวสนามและรถผลิตน้ำดื่มไว้คอยบริการประชาชน และการแสดงโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือสินค้า OTOP อีกด้วย
ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยืนยันว่า “กองทัพพร้อมให้การสนับสนุนดำเนินการตามโยบายรัฐบาลในการนำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะเพื่อการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพูนความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมของประเทศ”