พลตรีธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงราย ของ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ วานนี้ ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าการบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนในการฟื้นฟูเยียวยา พร้อมให้จัดตั้ง ศปช.(ส่วนหน้า) โดยให้ รมช.มท. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เป็นประธาน และรมช.กห. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษา เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและประสานงานในภาพรวม โดยให้ประจำที่หน้างานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยให้มีการระดมพลผ่านทางกระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับอาสาสมัคร และหน่วยงานเอกชนต่างๆ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. จึงได้สั่งการให้เหล่าทัพเตรียมความพร้อมในการระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ ยุทโธปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ให้พร้อมเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือสนับสนุนได้อย่างทันท่วงที ในขณะเดียวกัน รมช.กห. ได้กระชับกำลังทหาร พลเรือน ประชาชนจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนร่วมเร่งบูรณาการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ประสบภัย จ.เชียงราย และพื้นที่ภาคเหนือตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
โดยเหล่าทัพได้มีการระดมกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์ อาทิ รถยนต์บรรทุก รถเกรด รถตักดิน รถบรรทุกขนาด 10 ตัน รถฉีดล้างน้ำ อุปกรณ์ทำความสะอาด เครื่องมือเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ พร้อมกันนี้ได้นำเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ 100 ชุด ที่ในหลวงและพระราชินีทรงพระราชทานนำมาช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ใน จ.เชียงราย และพื้นที่อื่นๆ โดยขณะนี้กำลังพลได้เร่งเข้าพื้นที่ทำความสะอาด ฉีดล้าง ขุดตักดินโคลน รวมทั้งกำจัดเศษขยะและสิ่งของที่เสียหายจากการถูกน้ำท่วมตามถนนหนทาง เส้นทางสัญจร แหล่งชุมชน บ้านเรือนประชาชน ซึ่งจะให้การช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ล่าสุด วานนี้ (28 ก.ย.67) เวลา 15.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย พร้อมด้วยคณะฯ ได้เดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานลำปาง จากนั้นเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังเขื่อนกิ่วคอหมา ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เพื่อบินตรวจสถานการณ์น้ำบริเวณแม่น้ำวัง เขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมาอย่างใกล้ชิด โดยมีนางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ ได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากรองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน และการช่วยเหลือจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 32 กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันปริมาณน้ำยังไหลงลงเขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนกิ่วลม แต่มีปริมาณลดลง เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ปล่อย ทำให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ไม่รุนแรงเท่าปี 54 แต่ยังคงมีน้ำบริเวณลุ่มน้ำวังท้ายเขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา น้ำวังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำวัง ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของราษฏร และพื้นที่เกษตรกรรม ได้รับผลกระทบ จำนวน 12 อำเภอ 55 ตำบล 273 หมู่บ้าน 4,951 หลังคาเรือน โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่32 ได้บูรณาการจัดตั้งศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธรณภัยเพื่อติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และศูนย์รับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งในพื้นที่เชียงราย และลำปาง พร้อมระดมกำลังพลกว่า 600 นาย ในการจัดชุดออกปฏิบัติการเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ ชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ชุดจิตอาสา ทหารสารวัตร เสนารักษ์ รถครัวสนาม กิจการพลเรือน รด.จิตอาสา และชุดปฏิบัติการจิตอาสาช่วยเหลือในการฟื้นฟูภายหลังจากเข้าสู่ภาวะปกติในภารกิจต่างๆ โดยมีการแบ่งมอบพื้นที่ให้กับ มณฑลทหารบกที่ 32 รับผิดชอบ 7 อำเภอ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 รับผิดชอบ 4 อำเภอ และกองร้อยฝึกการรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา รับผิดชอบ 2 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังพล ยุทโธปกรณ์เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว