ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้จัดกิจกรรม “เฉลิมพระเกียรติในหลวง” ขึ้นอย่าง สมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ในวันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ อย่างสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหา กรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยมี พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลตรีหญิง ทักษดา สังขจันทร์ นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมรองปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมคู่สมรส และข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ ห้องพินิตประชานาถ ประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคลและ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีการจัด พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณรจำนวน ๗๔ รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยมุ่งเน้นการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน อาทิ ด้านการศึกษา ทรงเน้นการ สร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน ๔ ด้าน ได้แก่ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง การมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงและ มีคุณธรรม การมีงานทำและมีอาชีพ และการเป็นพลเมืองที่ดี การสนับสนุนโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทรงพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนการก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดารหลายแห่ง และทรงรับโรงเรียนไว้ในพระราชูปถัมภ์ รวมถึงพระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย ทรงรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์หลายแห่งเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทุกแห่ง เพื่อดูแลและส่งเสริมการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทรงพระราชทานเงินและเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลโครงการ “พาหมอไปหาประชาชน” กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงการนี้สนองพระราชกรณียกิจ โดยจัดทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จิตอาสาไปให้บริการตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้เข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง ทรงเยี่ยมและดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยเมื่อเสด็จฯ ออกเยี่ยมราษฎรในส่วนภูมิภาค จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะแพทย์ที่ตามเสด็จตรวจรักษาโรคแก่ประชาชน และทรงรับผู้ป่วยที่ยากไร้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์







