จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าในช่วงวันที่ 1 – 3 กันยายน 2568 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก และจากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ณ วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 0600 น.) พบว่าปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, สุโขทัย และ พิษณุโลก รวม 10 อำเภอ 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2,979 ครัวเรือน รวม 6,390 คน
กองทัพบก โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก และหน่วยทหารในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในการเข้าปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย อาทิ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3, กองพลทหารม้าที่ 1 โดย กองพันทหารม้าที่ 28 และกองพันทหารช่างที่ 8, มณฑลทหารบกที่ 33, มณฑลทหารบกที่ 35, มณฑลทหารบกที่ 36, มณฑลทหารบกที่ 39, กองกำลังนเรศวร, กรมทหารช่างที่ 3 และกองพัน ส่งกำลังและบริการที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารปรุงสุกให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่, มอบอาหารปรุงสุกและจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เข้าตรวจสุขภาพ รวมถึงให้คำแนะนำการป้องกันโรคที่มากับน้ำ ในพื้นที่ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์, เข้าทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ในพื้นที่ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน, บรรจุกระสอบทรายทำแนวป้องกันอุทกภัย ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งนำกำลังพลและเครื่องมือช่างเข้าฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด โดยร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ทำความสะอาดตะกอนดินโคลน เติมน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค – บริโภค และกำจัดเศษวัสดุที่อุดตันท่อระบายน้ำ ในพื้นที่อำเภอหล่มเก่า, อำเภอหล่มสัก และอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์, บรรจุกระสอบทรายทำแนวป้องกันอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ขณะเดียวกันกำลังพลจิตอาสา พร้อมด้วยรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ เข้าให้บริการรับ – ส่งประชาชนและนักเรียน ที่เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ในชุมชนตำบลชัยนาม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โดยได้ให้บริการประชาชนไปแล้วกว่า 30 เที่ยว รวม 194 คน และได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลชัยนาม มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนและผู้ป่วยติดเตียง รวม 162 ครัวเรือน, เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยการเก็บเครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่อุทกภัย ทำแนวกั้นน้ำริมตลิ่งแม่น้ำยมที่มีดินสไลด์ และบรรจุกระสอบทรายเพื่อเสริมแนวป้องกันน้ำ ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก และอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย นอกจากนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดย กองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 5 ยังปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัยผู้สูญหายจากภัยพิบัติดินถล่ม ในพื้นที่ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ในพื้นที่ภาคอื่น ๆ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1 โดย กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ร่วมกับสำนักงานเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำด้วยการบรรจุกระสอบทรายเพื่อทำแนวป้องกันอุทกภัย, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2 โดย มณฑลทหารบกที่ 28เข้ามอบสิ่งของอุปโภค – บริโภคที่จำเป็นให้กับประชาชน ในพื้นที่ ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 โดย กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 บรรจุกระสอบทรายทำแนวป้องกันอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
กองทัพบกพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที จนกว่าสถานการณ์น้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อเพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก (ส่วนกลางและกรุงเทพมหานคร) โทร. 022977648 – 9, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 1 (ภาคกลาง) โทร. 022803977, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) โทร. 044245946, ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 3 (ภาคเหนือ) โทร. 055242859 และ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 4 (ภาคใต้) โทร. 075383405 ตลอด 24 ชั่วโมง
………………………………………………………….
ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก, 2 กันยายน 2568