เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๔๕ นาฬิกา กระทรวงกลาโหมเปิดงานแสดงนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ ๒๐๒๕ (Defense & Security 2025) ณ อาคารชาเลนเจอร์ ๑ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม เอกอัครราชทูต ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนประเทศพันธมิตร แขกผู้มีเกียรติ และผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมในงานอย่างพร้อมเพรียง
งาน Defense & Security 2025 นับเป็นเวทีสำคัญด้านความมั่นคงและด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกสองปี ภายใต้แนวคิด “The Power of Partnership” หรือ “พลังแห่งความร่วมมือ” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และการพัฒนายุทธศาสตร์ร่วมระหว่างประเทศ
ในปีนี้ มีผู้ผลิตยุทโธปรณ์มากกว่า ๖๑๗ บริษัท จาก ๓๘ ประเทศ และ ๒๕ พาวิลเลียนนานาชาติ จากประเทศชั้นนำ อาทิ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และไทย จัดแสดงเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก พร้อมคณะผู้แทนระดับสูงกว่า ๒๘๙ คน ๔๐ คณะจาก ๒๗ ประเทศ รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพของแต่ละประเทศ ตลอดจนผู้เข้าร่วมชมงานด้านธุรกิจและวิชาชีพอีกนับหมื่นรายได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการพัฒนาและการป้องกันประเทศ
นอกเหนือจากการจัดแสดงนิทรรศการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าวแล้ว ภายในงานยังมีการสัมมนานานาชาติพิเศษ การบรรยายเชิงเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญ และการสาธิตยุทโธปกรณ์จริง ตลอด ๔ วันของงาน รวมถึงกิจกรรมหารือความร่วมมือในรูปแบบ G2G (Government to Government) และ B2G (Business to Government) ในโอกาสต่างๆ เพื่อขยายเครือข่ายด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในระดับนานาชาติ
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความตื่นตัวของประเทศต่าง ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ กองทัพไทยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างยุทโธปกรณ์และบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ให้เท่าทันความท้าทายในยุคดิจิทัล
การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า งาน Defense & Security 2025 คือ หนึ่งในเวทีที่สำคัญของภูมิภาคที่แสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และเป็นศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างประเทศ เชื่อมโยงความมั่นคงของไทยกับมิตรประเทศทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่สันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “พลังแห่งความร่วมมือ” (The Power of Partnership) อย่างแท้จริง








