เมื่อ 3 เม.ย.60 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้ประชุมหน่วยงานความมั่นคงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมความพร้อม ดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนและการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ ห้องประชุม ในศาลาว่าการกลาโหม

ที่ประชุมรายงานให้ทราบถึง การเตรียมความพร้อมมาตรการต่าง ๆ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งมาตรการดูแลลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยข้อมูลทางสถิติภาพรวม พบว่าความรุนแรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม สาเหตุหลักมาจาก การใช้ความเร็ว ดื่มแล้วขับ หลับใน ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน โดยเฉพาะในกลุ่มมอเตอร์ไซด์ ซึ่งกว่า 90% ตายและเจ็บจากการไม่สวมหมวกกันน็อก รวมทั้งมีการสูญเสียจากกรณีใหญ่ ๆเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากการไม่มีและไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

พล.อ.ประวิตรฯ รองนรม.และรมว.กห. ได้กำชับ ให้ทุกหน่วยงาน ร่วมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม ดูแลประชาชนในพื้นที่จัดงานที่มีประชาชนจำนวนมาก และให้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนภาพรวม เน้น งานด้านการข่าว และให้ตื่นตัวเฝ้าระวังเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่อาจมีขึ้น โดยให้ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิดและไฟฟ้าส่องสว่างในทุกพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับ ร่วมกับการสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและแจ้งความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่

สำหรับมาตรการดูแลลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้เน้นย้ำ ถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาล และ คสช.ที่มีความห่วงใยและปรารถนาดีต่อประชาชน เพื่อมิให้เกิดการสูญเสียและบาดเจ็บจำนวนมากจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเช่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะเทศกาลวันหยุดยาว จึงได้ออกมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติม รองรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถผ่อนจากหนักเป็นเบา โดยขอให้ทุกส่วนราชการ เรียนรู้และนำข้อมูลทางสถิติมาประมวลใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย ร่วมกันบูรณาการแผนการปฏิบัติและมาตรการต่าง ๆกับส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มข้น ต่อเนื่องและจริงจังในเส้นทางถนนสายหลักและรอง ขณะที่กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบเส้นทางถนนท้องถิ่นและชนบท และขอให้ประชาคมหมู่บ้าน ร่วมกันจัดตั้งด่านชุมชน และช่วยกันดูแลกันและกันมากขึ้น พร้อมกับขอให้กระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมความพร้อมด้านการตอบสนองหลังการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกัน ขอให้กระทรวงคมนาคม เร่งรัดสำรวจ ตรวจสอบ จุดตัด จุดเสี่ยง ปรับปรุงและซ่อมแซมถนน ดูแลการขนส่งทางน้ำและทางอากาศ ให้มีความสะดวก ปลอดภัยในการสัญจรของประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งต้องคุมเข้มตรวจสอบสภาพรถสาธารณะให้มีความสมบูรณ์อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ เพื่อช่วยกัน มิให้เกิดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่ใส่ใจในหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความประมาท ขาดสติและขาดจิตสำนึกด้านวินัยจราจรของผู้ใช้รถ ใช้ถนน อันนำมาซึ่งสาเหตุของการเจ็บและตายจากอุบัติเหตุของประชาชนจำนวนมากในแต่ละปี จึงขอให้ทุกคนเสียสละ ร่วมมือกัน ทำด้วยความรักและใจปรารถนาดีกันอย่างเต็มกำลัง

539992_1478636328845225_1496204101157535192_n