ในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๐ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้แทนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วม
การประชุมครบองค์คณะระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (ASEAN Ministerial Meeting on Transnational Crimes) หรือ AMMTC โดยมีคณะผู้แทนไทย ประกอบด้วย พลตำรวจเอกสุเทพ
เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่ประชุมได้รับทราบพัฒนาการและผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในการร่วมกันรับมือต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ รวมถึงแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการดำเนินการต่อปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้แทนไทยได้กล่าวถึงความสำเร็จและผลการดำเนินการของไทยต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดข้ามชาติและการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธ์พืชข้ามชาติ อีกทั้งยังได้กล่าวถึงความจำเป็นที่ประเทศในภูมิภาคจะต้องร่วมมือกันในการรับมือต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอาชญากรรมและการควบคุมชายแดน ทั้งนี้ ไทยยืนยันที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาคเพื่อร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ให้อาเซียนเป็นภูมิภาคแห่งสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่งคั่ง
ในการประชุม AMMTC ครั้งนี้ มีการรับรองเอกสารสำคัญ ๔ ฉบับ ได้แก่ แผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย (ASEAN Comprehensive Plan of Action on Counter Terrorism) แผนงานโบโฮด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี ๒๐๑๗ – ๒๐๒๐ (The Bohol TIP Work Plan 2017 – 2020) แถลงการณ์มะนิลาว่าด้วยการต่อต้านการเพิ่มขึ้นของลัทธินิยมความรุนแรงและกลุ่มคนหัวรุนแรง (Manila Declaration to Combat the Rise of Radicalization and Violent Extremism) และแถลงการณ์อาเซียนว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ASEAN Declaration to Prevent and Combat Cybercrime) รวมทั้งได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะทำงานภายใต้กลไก AMMTC เพิ่มเติม ได้แก่ คณะทำงานด้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของไทย และคณะทำงานด้านการลักลอบค้าอาวุธ ซึ่งเสนอโดยกัมพูชา
21
ก.ย.