พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้ให้การต้อนรับ พล.ท.จันสะหมอน จันยาลาด รมว.กระทรวงการป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และคณะในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ ศาลาว่าการกลาโหม
โดย พล.ท.จันสะหมอน ได้แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ที่ไทยได้ให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุอุทกภัย จากเขื่อนแตกในลาวอย่างทันท่วงที ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความขอบคุณ สปป.ลาวเช่นกัน ที่ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาร่วมภารกิจช่วยเหลือ ทีมหมูป่าไทย ทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักถึงภัยความมั่นคงที่สำคัญและหารือร่วมกันในการแก้ปัญหาภัยจากยาเสพติดและกลุ่มบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ โดยเห็นชอบร่วมกันที่จะดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและตรงไปตรงมาให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์กับสังคมโลก
ต่อจากนั้น : 1000 พล.อ.ประวิตร และ พล.ท.จันสะหมอน ได้ทำหน้าที่ ประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย – ลาว ( GBC ครั้งที่ 25 ) ซึ่งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ โรงแรมเชอราตัน กทม. ด้วยบรรยากาศแห่งไมตรีจิตและมีมิตรไมตรี โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ทั้งสองฝ่ายได้ปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทบทวนและประเมินผลการปฏิบัติร่วมที่ผ่านมา โดยแสดงความยินดีต่อผลสำเร็จและความคืบหน้าของการปฏิบัติงานในรอบปี ทั้งการแลกเปลี่ยนข่าวสาร การเยือน การศึกษาทางทหาร รวมทั้งวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างกันที่ผ่านมา โดยร่วมแก้ปัญหาพื้นที่ชายแดนที่เกิดขึ้นให้ยุติลงโดยเร็วและจำกัดอยู่ในระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งเห็นพ้องกันว่า ความสัมพันธ์ ไทย – ลาว นับวันจะมีความผูกพันใกล้ชิดกันมากขึ้น
ที่ประชุมเห็นชอบ ความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย – ลาว โดยสนับสนุนให้ทุกกลไกที่เกี่ยวข้อง เพิ่มพูนความร่วมมือและปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดนที่ได้ลงนามร่วมกัน , แนวทางการวางกำลังและการลาดตระเวนของกองกำลังติดอาวุธตามแนวชายแดน เพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่งตามแนวชายแดน , ความร่วมมือกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุมคุมขัง , ความร่วมมือกันจัดระเบียบชายแดน เพื่อป้องกัน สกัดกั้นและปราบปราม การลักลอบเข้าเมือง แรงงานผิดกฎหมาย การต่อต้านการค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย , ความร่วมมือกันแก้ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ รวมทั้งบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงไทย – ลาว , ความร่วมมือในการรักษาเส้นเขตแดน และที่สำคัญที่สุด ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อให้กองทัพเข้ามามีบทบาทแก้ปัญหามากขึ้น
ต่อจากนั้น ทั้งสองฝ่าย ได้ลงนามในบันทึกการประชุมร่วมกัน ซึ่งการเดินทางเยือนไทยและเข้าร่วมประชุมของ รมว.กระทรวงการป้องกันประเทศ สปป.ลาว ครั้งนี้ แสดงถึงความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจระหว่าง กห.และคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างและกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นและขยายตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้ชายแดนทั้งสองประเทศ เป็นชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพและความร่วมมืออย่างแท้จริงตลอดไป