พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้รับทราบ รายงานการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายาเสพติดเร่งด่วน รอบ 3 เดือน ( พ.ย. 61 – ม.ค. 62 ) โดยฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ตามนโยบายของรัฐบาล โดยบูรณาการทำงานร่วมกันในทุกพื้นที่ ทั้งการสกัดกั้นตามแนวชายแดน และการปราบปรามในพื้นที่เขตเมือง สามารถยึดยาเสพติดได้รวม เป็นยาบ้าถึง 247 ล้านเม็ด , ยาไอซ์ 3,455 กก. , เฮโรอีน 800 กก. กัญชาเกือบ 9,000 กก. จับกุมผู้ต้องหากว่า 23,000 ราย ขณะเดียวกัน ได้นำผู้เสพออกมาสู่กระบวนการบำบัดแล้ว กว่า 6,000 ราย
สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ยาเสพติดมีความเชื่อมโยงกับความรุนแรงในพื้นที่ โดยพบเยาวชนในพื้นที่ใช้ยาเสพติดมากขึ้น ซึ่งผู้นำศาสนา ได้ประสาน กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า ) ร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง สามารถกวาดล้างยาบ้า จากผู้ค้ารายย่อยที่กระจายตัวจ่ายยาถึงเยาวชนในพื้นที่ต่างๆได้เกือบ 2 ล้านเม็ด จับกุมผู้ต้องหากว่า 5,000 ราย โดยพบเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริหารท้องถิ่นบางคนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งได้ปลดออกและดำเนินคดีแล้วกว่า 20 คน บางส่วนกำลังสอบสวนขยายผลเชื่อมโยงความรุนแรงและธุรกิจเถื่อนในพื้นที่ซึ่งมีมูลค่ากว่าพันล้าน พร้อมกันนี้ ได้นำเยาวชนในพื้นที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดและติดตามผลร่วมกันกว่า 12,000 ราย
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ ทุกส่วนราชการที่ร่วมมือกันปฏิบัติงานอย่างจริงจังในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยย้ำว่า “ยาเสพติด เป็นภัยของสังคมร่วมกัน ที่จะยอมให้มีอยู่และทำลายลูกหลานเราไปต่อหน้าอีกไม่ได้” โดยมอบเป็นนโยบายและกำชับ ขอให้ร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดต่อไป โดยต้องแสวงความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคมมากขึ้น ทั้งงานสกัดกั้นตามแนวชายแดน การปราบปรามและการบำบัดรักษาผู้ติดยา โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในอนาคต โดยกำหนดให้มีมาตรการพิเศษทุกจังหวัดในพื้นที่เขตเมือง ให้เข้มงวดสถานบันเทิงและสถานบริการที่เป็นแหล่งมั่วสุม เพ่งเล็งพื้นที่เสี่ยง สถานศึกษา และโรงงานอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกัน ขอให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ ปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ สามเหลี่ยมทองคำ ชายแดนไทย – เมียนมา – ลาว รุกทำลายเครือข่ายและโครงสร้างรายสำคัญที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและรุกปฏิบัติการในระบบขนส่งและเครือข่ายออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้จะต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด หากมีต้องปลดออกและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด