วันนี้ (22 มีนาคม 2567) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุม GBC ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 16 ณ กัมพูชา ซึ่งภารกิจก่อนการประชุมฯ ได้มีการพบปะหารือกับ พลเอก เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
นายสุทิน คลังแสง/รมว.กห. ได้กล่าวถึงความร่วมมือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยกัน ได้แก่ 1) ปัญหายาเสพติดที่ยังไม่หมดไป 2) ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่มีมากขึ้นและจะแก้ปัญหาฝ่ายเดียวไม่ได้ โดยเชิญชวนให้ฝ่ายกัมพูชาร่วมสังเกตการณ์โครงการเคลียร์สกาย ระหว่าง 25-27 มี.ค.นี้ ณ จ.เชียงใหม่ 3) ปัญหาอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ที่มีความร่วมมือในการแก้ไขปัญหากันเป็นอย่างดี แต่ยังคงเป็นเรื่องยากพอสมควร 4) การเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีนโยบายในการเก็บกู้ร่วมกัน แต่ในระดับผู้ปฏิบัติยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามนโยบายที่ได้วางไว้ 5) ฝ่ายไทยยืนยันในนโนบายชายแดนสันติสุขเพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความสุข ซึ่งเห็นควรให้มีการพิจารณาปรับปรุงข้อตกลง GBC ไทย-กัมพูชา ปี 2538 ที่ผ่านมา และ 6) ฝ่ายไทยหวังว่า กลไก GBC จะเป็นตัวขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาร่วมกันให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตามนโยบายนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศที่ได้พบปะหารือกันมาแล้ว
ในส่วนของ พล.อ.เตีย เซยฮา รอง นรม. และ รมว.กห.กัมพูชา ได้กล่าวว่า ตั้งแต่สมเด็จฮุน มาเนต รับตำแหน่ง นรม.กัมพูชา ก็ได้มีการออกนโยบายต่างๆ และมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการปราบปรามยาเสพติด และแก๊ง Call Center พร้อมกับขอบคุณฝ่ายไทยในความร่วมมือกันแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ประเทศที่เป็นไปอย่างดี ตลอดจนยังได้หารือเรื่องอื่นๆ อีก อาทิ 1) การขจัดปัญหาการค้าอาวุธสงครามให้หมดไป 2) การทำงานร่วมกันภายใต้กลไก GBC ไทย-กัมพูชา ซึ่งดำเนินงานด้วยกันเป็นอย่างดี 3) ฝ่ายกัมพูชาให้ความสนใจในประเด็นปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ และขอบคุณฝ่ายไทยที่เป็นแกนหลักและยืนยันที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันในภูมิภาคนี้ 4) ขอให้ฝ่ายไทยค่อยเป็นค่อยไปในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากยังมีพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บกู้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายต้องทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจถึงพื้นที่ที่สามารถเก็บกู้ได้ในดินแดนของทั้ง 2 ประเทศ และต้องวางแผนการดำเนินงานร่วมกันอย่างรอบคอบ และ 5) เห็นพ้องกับฝ่ายไทยเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการใช้กลไก GBC ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการทำให้ชายแดนของไทยและกัมพูชา เป็นชายแดนสันติสุข
สำหรับการประชุม GBC ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 16 นั้น ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศในทุกระดับ อันจะนำมาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ซึ่งได้รับทราบถึงความก้าวหน้าความร่วมมือในพื้นที่ชายแดน โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพิจารณาทบทวนผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามโครงการความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากการประชุม GBC ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 15 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2565 อาทิ ด้านการผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน ด้านแรงงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติด ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยกับหน่วยทหารและตำรวจของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน ด้านการเกษตร ด้านสาธารณสุข และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ทั้งนี้ ความจริงจังในความร่วมมือจะเห็นได้จากการนำผู้บริหารระดับสูงทั้งในภาคทหาร ตำรวจ และพลเรือน มาร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแนบแน่น ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืนตลอดไป
ในการนี้ ยังได้เพิ่มเติมความร่วมมือด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน การลักลอบค้าอาวุธ และการแก้ปัญหา Call Center อีกด้วย โดยทั้งสองฝ่ายจะดำรงความสัมพันธ์และมุ่งมั่นเสริมสร้างความ ร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดนในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่ชายแดนของสองประเทศมีความสงบ สุข มั่นคง และได้รับการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายไทยแจ้งว่า จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม GBC ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 17 ณ ประเทศไทย โดยจะแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ให้ทราบต่อไป