เมื่อ 23 มี.ค.61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. เป็นประธานประชุม คณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/61 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ที่ประชุมรับทราบถึง รายงานผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปี 61 “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ระหว่าง 28 ธ.ค.60 ถึง 3 ม.ค. 61 โดยสถิติการเกิดอุบัติเหตุ มีผู้บาดเจ็บ 4,005 คน เสียชีวิต 423 คน โดยสาเหตุหลักเกิดจาก การดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วกว่าที่กำหนด ซึ่งจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยภาพรวมสถิติอุบัติเหตุลดลง เกิดจากความร่วมมือขององค์กรภาคีเครือข่าย การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การตรวจวัดแอลกอฮอล์ การจัดตั้งด่านชุมชน การเพิ่มความเข้มข้นจุดเสี่ยง 109 อำเภอและการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง และรับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561
ที่ประชุม เห็นชอบแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2561-2564 พิจารณามาตรการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด เพิ่มความเข้มข้นมาตรการชุมชนและสังคมต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหากลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง และให้กระทรวงสาธารณสุข เป็นเจ้าภาพบูรณาการความชัดเจนและมาตรฐานข้อมูล 3 ฐาน ( ข้อมูลมรณะบัตร ข้อมูลทางคดี และข้อมูลจากบริษัทประกัน ) ให้กรมการขนส่งทางบก ร่วมตรวจสอบกำหนดมาตรการกำกับควบคุมรถโดยสารประจำทางและไม่ใช่ประจำทาง รวมทั้งผลักดันให้มีมาตรการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ กรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตในทุกราย ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ (ศปถ.อำเภอ) เป็นกลไกหลัก ให้ความสำคัญดำเนินการตามแนวทางประชารัฐ โดยเน้นปัจจัยเสี่ยง ด้านพฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนน และด้านกายภาพ พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดตั้ง ศปถ. ระดับองค์กรปกครองท้องถิ่นท้องในทุกพื้นที่ เพื่อร่วมผลักดันขับเคลื่อนงานตามแผนแม่บทสู่พื้นที่
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายให้มากขึ้นและต้องทำหน้าที่ตามมติที่ประชุมอย่างต่อเนื่องจริงจังตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดควบคู่กับการประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและความร่วมมือกับประชาชน ขณะเดียวกันให้จัดทำแผนปฏิบัติการ ตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน โดยให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูล 3 ฐาน เป็นข้อมูลกลางของประเทศในการวิเคราะห์และกำหนดมาตรการที่จำเป็น และให้สตช.และกระทรวงคมนาคมเร่งเสนอกฎหมายเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตให้ทันและมีผลบังคับใช้โดยเร็ว พร้อมทั้ง มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย นำผลประชุม เสนอ ครม. และ กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ ผอ.ศปถ.จังหวัด ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนแผน สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับรถสาธารณะ ขอให้กระทรวงคมนาคม เข้มบังคับใช้กฎหมายและพิจารณาทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยองค์รวม ทั้งคน รถและถนน โดยเฉพาะกับรถสาธารณะ ทั้งรถบัส 2 ชั้นและรถตู้สาธารณะที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งพนักงานขับรถที่ไม่พร้อม พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชน