เมื่อ 28 มิ.ย. 61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาผักตบชวา เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัด แก้ปัญหาผักตบชวาที่กำลังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งปัญหาน้ำเสีย อุปสรรคการสัญจรทางน้ำ และการขัดขวางการระบายน้ำ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาแหล่งน้ำและเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบไปการจัดการน้ำ ทั้งในฤดูแล้งและฤดูฝนที่กำลังมาถึง
มีแนวทางร่วมกัน ที่จะดำเนินการกำจัดผักตบชวาให้ถือเป็นภารกิจประจำ ที่ต้องทำต่อเนื่องกันไป โดยกำหนดมาตรการดำเนินงานทั้งในแหล่งน้ำปิดและแหล่งน้ำเปิด กำจัดผักตบชวาให้เป็นผลใน 3 ระยะต่อเนื่องกันไปถึงปี 65 โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก บูรณาการทำงานร่วมกับทุกส่วนราชการ เพื่อให้ปลอดผักตบชวาในแหล่งน้ำ พร้อมทั้งดำเนินมาตรการเสริมควบคู่กันไป ในการสนับสนุนภาคประชาชนที่รวมตัวกันจัดตั้งเป็น “ชมรมคนริมน้ำ” ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมมือกันกำจัดผักตบชวาในในพื้นที่ ขณะเดียวกันให้มีการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นทำงานไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางจัดตั้งโรงงานต้นแบบ กำจัดผักตบชวาด้วยนวัตกรรมการแปรรูป จำนวน 5 แห่งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นครพนม ศรีสะเกษ พิษณุโลกและพัทลุง โดยจะเป็นโรงงานแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนและเป็นศูนย์เรียนรู้ควบคู่กันไป
พล.อ.ประวิตรฯ ได้ย้ำขอให้ทุกส่วนราชการ ร่วมกันดูแลแก้ปัญหาผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง จริงจัง โดยถือเป็นภารกิจประจำ ที่หวังผลสัมฤทธิ์ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการน้ำตามยุทธศาสตร์น้ำแห่งชาติ โดยขอให้ทุกจังหวัด ติดตามการกำจัดผักตบชวาตามแผนงานทั้ง 3 ระยะให้เป็นผล พร้อมทั้งให้สนับสนุนและผลักดันการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเพื่อนำสารชีวพันธุ์มาใช้ในการกำจัดผักตบชวาโดยพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป