“…พระองค์ท่านทรงริเริ่มทั้งหมดในการดูแลประเทศไทย ผมถึงบอกว่าประเทศไทยเรามีพระมหากษัตริย์ที่มีพระคุณอันประเสริฐต่อประเทศไทยมาโดยตลอด ทุกพระองค์ทำเพื่อประเทศชาติมาตลอด และในวันนี้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์สมัยใหม่ คือไม่ได้สู้รบกับข้าศึก แต่สู้กับความยากจนและรบกับธรรมชาติเพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย ฉะนั้นรัฐบาลต้องสนองพระราชดำรินี้ และดำเนินงานต่อตามที่พระองค์ท่านเริ่มไว้ไม่ใช่พระองค์ท่านเริ่มไว้แล้วต้องทำเองจนจบ คงไม่ใช่…”

คำกล่าวข้างต้นคือข้อความบางตอนที่ท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กรุณาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน๒๕๕๔ ในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเนื้อความที่ท่านกล่าวในวันนั้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่คนในชาติอันเป็นพระราชปณิธานที่ต้องทรงดำเนินพระราชกรณียกิจตามคำกราบบังคมทูลของคนไทยทั้งชาติ และเป็นการแสดงออกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมิได้ทรงทอดทิ้งประชาชนของพระองค์ท่านดังพระราชดำรัสพระราชทาน เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๘๙

284-56

หากทุกท่านมองย้อนไปในอดีต ภาพที่ทุกท่านเห็นเป็นประจำจนชินตาคือพระราชกรณียกิจองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ทุรกันดารและพื้นที่ป่าเขาในทุกภูมิภาคของประเทศอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติภาพในอดีตคงเป็นประจักษ์พยานที่ช่วยยืนยันให้สังคมไทยได้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยโดยพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญส่วนใหญ่คือการพัฒนาประเทศ ทั้งยังได้พระราชทานพระราชดำรัสหรือแนวพระราชดำริแก่ส่วนราชการหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อน้อมนำไปปฏิบัติจนสำเร็จลุล่วงและบังเกิดประโยชน์สูงสุดยังความร่มเย็นและบังเกิดความผาสุกแก่ปวงเหล่าพสกนิกรเสมอมา

ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ท่านดำเนินพระราชกรณียกิจในลักษณะที่ใกล้ชิดกับประชาชนทั่วทุกพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎร พระองค์มิได้ทรงคำนึงถึงเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินหรือภยันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะมีระยะทางหลายกิโลเมตร บนเส้นทางที่ขรุขระ บางกรณีต้องขึ้นเขาลงห้วยต้องบุกป่าฝ่าดงไปในเส้นทางที่ถนนเข้าไปไม่ถึง แม้ฝนจะตกหนักเต็มไปด้วยน้ำขังและโคลนตม หรืออากาศจะหนาวเหน็บหรือร้อนอบอ้าวเพียงใด ก็ไม่เป็นอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางการเสด็จพระราชดำเนินไปให้ถึงตัวราษฎรที่ทรงห่วงใย

284-57พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ ขาดแคลนเครื่องไม้เครื่องมือ และขาดแคลนองค์ความรู้อันเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการดำเนินการทางการเกษตรกรรมและการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพสกนิกรในท้องถิ่นชนบท พื้นที่ทุรกันดารจนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาความยากจน ขาดเสถียรภาพในการดำเนินชีวิต และอ่อนด้อยในด้านคุณภาพชีวิต จึงทรงกำหนดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ขึ้นและพระราชทานให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบรับไปพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมและถูกต้องในเชิงวิชาการทั้งในเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ การบำรุงและพัฒนาความอุดมสมบูรณ์ของดิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกรรม พร้อมทั้งพระราชทานแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทางหลักในการดำเนินชีวิตและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างไม่เดือดร้อน

284-58แนวทางและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนในชนบทให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้มีความสุขตามอัตภาพ และยังเป็นหลักคิดในการดำเนินชีวิตทั้งของคนในชนบทและในเมืองให้รู้จักการดำเนินชีวิตบนทางสายกลางโดยไม่ใช้ชีวิตจนเกินสุข และไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากลำเค็ญจนเกินควร หากทุกท่านรู้จักกับคำว่า พอเพียง สิ่งที่ผู้เขียนได้เรียบเรียงข้างต้นนี้คือ กล่องวิเศษพระราชทานที่จะช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของปวงพสกนิกรชาวไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสามารถประสบสิ่งสมหวังได้ดังใจปรารถนา ทั้งนี้ ส่วนราชการหรือหน่วยงาน หรือประชาชน พึงจะต้องน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ และดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จตามความเหมาะสมด้วยองค์กรเอง หรือตัวเอง เพราะกล่องวิเศษนี้จะบังเกิดผล ก็ต่อเมื่อท่านได้อธิษฐานและให้สัจจะกับตนเองว่าจะปฏิบัติตามที่ท่านปรารถนาตามแนวทางอันถูกต้องชอบธรรม แล้วผลที่เกิดขึ้นจะเป็นผลสำเร็จตามใจอธิษฐาน โดยทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จด้วยการกระทำ ด้วยความมานะ อดทนมีความวิริยะ อุตสาหะ ด้วยตนเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ ปัญหาความยากจน หรือปัญหาต่างๆ ก็จะคลี่คลายและลุล่วงไปด้วยดีสมดังความปรารถนา และเรื่องที่สำคัญคือขอให้ทุกท่านพึงตระหนักคือการทำงานและดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของความรัก ความสามัคคี ปรารถนาดี และปันน้ำใจต่อกัน แล้ววันนั้นปัญหาความยากจนและปัญหาต่าง ๆ จะจางหายไปจากสังคมไทย

ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๘๗ พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เขียนใคร่ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมกันปฏิบัติหน้าที่และดำเนินชีวิตตามความรับผิดชอบบนพื้นฐานของคุณธรรมและความพอเพียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระเกียรติแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรงเป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ทองของพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ