C-123K คือหนทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการ ช่วยเหลือทหารทั้งสามนาย เนื่องจากสามารถ ขึ้นลงสนามได้จากมุมที่ชันมาก (Assault Landing) และใช้ทางวิ่งที่ไม่ยาวมากเหมือน C-130 ซึ่งสภาพสนามบินในขณะนั้นไม่เหมาะ กับเครื่องบินปีกตรึงประเภทใดเลยนอกจาก C-123K เท่านั้น สนามบินมีทางวิ่งเหลือพอใช้ ได้แบบระวังมาก ๆ แค่ ๒,๒๐๐ ฟุต เนื่องจาก มีซากที่ถูกยิงของ CH-47 นอนขวางอยู่ สำหรับ C-123K นั้น ที่นั่นเขามีนามเรียกขานว่า “Bookie”
Bookie 750 ลงสนามบนิ Kham Duc ดว้ย เทคนิคการบินยุทธวิธี นักบินพยายามมองหา ทหารที่ติดค้างอยู่ โชคดีที่ลูกเรือมองเห็น แต่ ก็โชคร้ายที่มองเห็นในช่วงที่ Bookie 750 วิ่ง ขึ้นมาแล้ว และไม่มีเชื้อเพลิงพอที่จะบินกลับ ไปลงอีกครั้งได้ ชะตาชีวิตพวกเขายังไม่สิ้นหวัง Bookie 771 ทคี่วามสงู ๙,๐๐๐ เหนือสนามบินนอกระยะยิงของปืนไรเฟล รับมอบภารกิจสุด ยอดนี้ต่อจาก Bookie 750 ทันที Bookie 771 ผ่อนเครื่องยนต์ ลดระดับปักหัวดิ่งจี้จุดสัมผัส พื้นทางวิ่ง ความเร็วดำดิ่งขนาด ๑๕๑ ไมล์/ ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่เกือบเป็นขีดจำกัดใน การจิกหัวเครื่องลงและเตรียมการในการลง สนามเช่นการเปิด Flap และ Landing Gear ถ้าความเร็วเกินกว่านี้ Flap และ Landing Gear ที่กางออกมาจะต้องปลิวหลุดเนื่องจากการกระชากของกระแสลมแรงจากความเร็ว ที่สูงเกินขีดพิกัดและ Bookie 771 จะไม่มี โอกาสลงสนามในสภาพที่สมบูรณ์ได้เลย คง เป็นแค่เศษโลหะขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้น โลกด้วยความเร็วสูงและระเบิดลุกไหม้เป็นจุณ และจะเป็นที่ชื่นชอบของทหารเวียดนามเหนือ ไปโดยปริยาย
Bookie 771 ผ่านระยะความสูงลงมา อย่างรวดเร็วจนเหลือระยะสุดท้ายความสูง ๕๐ ฟุต ระยะทาง ๑,๕๐๐ ฟุตจากจุดสัมผัส พื้น ที่นักบินจะต้องดึงคันบังคับอย่างแม่นยำ เพียงครั้งเดียวเพื่อบังคับให้ล้อสัมผัสพื้นทาง วิ่ง ณ จุดแตะทางวิ่งที่คำนวณไว้แล้ว การทำ เช่นนี้เป็นวิธีการลงสนามทางยุทธวิธี ซึ่งนักบิน ประเภท Airlifter โดยเฉพาะของ C-123K ได้รับการฝึกมาอย่างโชกโชน เพราะจะเป็น ขีดความสามารถของนักบินที่จะทำให้เกิด ความอยู่รอดและบรรลุภารกิจ ในสภาพคับขัน เช่นนี้ Bookie 771 สัมผัสพื้นอย่างเฉียบขาด ทางวิ่งข้างหน้าขณะนั้นเหลืออยู่เพียง ๑,๘๐๐ ฟุต นักบินใช้เบรคอย่างระมัดระวัง มือขวากำ แน่นที่ Throttle พร้อมที่จะดึงเข้าสู่ตำแหน่ง Full Reverse ใช้ก?าลังเครื่องยนต์ช่วยเบรค เมื่อถึงคราวจำเป็น 50 seconds on the ground.
ในขณะที่ Bookie 771 ขับเคลื่อนไปบน ทางวิ่งนั้น พวกเขาเปิดท้ายเครื่องไว้รอการ ขึ้นมาของทหารทั้งสามนาย Bookie 771 ได้ รับการต้อนรับจากคมกระสุนไรเฟลค่อนข้าง หนาแน่นแต่เป็นการยิงจากระยะไกลบนเนิน เขาข้างทางวิ่ง ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือเขาคิด ว่าคงตายด้วยจรวด ๑๒๒ มม.ที่ยิงตรงเข้ามา หา หัวจรวดตกห่างจากเครื่องเพียงแค่ ๓๐
ฟุตและไม่ระเบิด นับว่าเป็นปาฏิหาริย์สำหรับ Bookie 771 ในขณะเดียวกันเมื่อเครื่องขับ เคลื่อนมาได้เกือบครึ่งทางของทางวิ่งที่ใช้ได้ ทหารทั้งสามนายที่ซ่อนตัวอยู่ในคูน้ำข้าง ทางวิ่ง ได้วิ่งกันอย่างสุดชีวิตมาขึ้นเครื่องได้ สา?เรจ็ “All on board” The Load master said” “ทหารขึ้นเครื่องเรียบร้อยครับ กัปตัน” เป็นการรายงานของนายทหารควบคุมการ บรรทุกต่อนักบิน Bookie 771
Bookie 771 เร่งเครื่องสุดกำลังและใช้ เครื่องยนต์เจ็ตที่ติดตั้งอยู่ที่โคนปีกทั้งสอง เครื่องที่ต?าแหน่ง ๑๐๐% ช่วยอีก พวกเขา สามารถวิ่งขึ้นหนีออกจากสถานที่คล้ายนรก แห่งนี้โดยการใช้ทางวิ่งเพียงแค่ ๑,๐๐๐ ฟุต และเป็นเวลาที่หายใจไม่ทั่วท้องบนพื้นทางวิ่ง เพียงแค่ ๔๐ – ๕๐ วินาที เท่านั้นเอง และเหลือ เชื่อยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อ Bookie 771 บินกลับถึง Da Nang Base พวกเขาไมพ่บรอ่งรอยบาดเจบ็ ความเสียหายบนลำตัวของ Bookie 771 เลย
Medal of Honor
ด้วยเกียรติภูมิของผู้ทำการในอากาศหลาย ประเภทที่ Kham Duc กองทัพสหรัฐฯได้ ประกาศเกียรติคุณและมอบเหรียญกล้าหาญ ระดับต่าง ๆ โดยประธานาธิบดี Lyndon Johnson ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค. ๑๙๖๙ ในส่วนของ Bookie 771 นั้น นักบินที่ ๑ Joe Jackson ไดร้บั The Medal of Honor, นักบินผู้ช่วย Campel ไดร้บั Air Force Cross, ลูกเรือสองคนคือ Trejo และ Grubbs ได้รับ The Silver Star
ในปี ๑๙๗๓ Joe Jackson เกษยีณราชการ หลังจากที่ได้รับใช้ USAF มาเป็นเวลาถึง ๓๓ ปี หน้าที่สุดท้ายของเขาสำหรับ USAF คือ เป็น อาจารย์สอนยุทธศาสตร์ที่ USAF Air Warfare College
“เกียรติยศของพวกเขาไม่ได้มาเพราะโชค ช่วย แต่มาจากความสามารถอย่างแท้จริง”