วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ถือเป็นวันสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลแต่เนื่องจากพระองค์ยังมิได้ทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อ ณ ทวีปยุโรป ซึ่งต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๙๓เมื่อทรงบรรลุนิติภาวะและทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย และในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ รัฐบาลไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวายเพื่อรับรองพระราชฐานะความเป็นพระประมุขของประเทศอย่างเป็นทางการและทรงดำรงพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์

ตามโบราณราชประเพณี พระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะยังไม่มีพระราชอำนาจอย่างสมบูรณ์ จะไม่ใช้คำว่า พระบาทนำหน้า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะยังไม่มีการใช้นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร ๙ ชั้น และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า พระบรมราชโองการซึ่งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชพิธีในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ซึ่งรายละเอียดของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกประกอบด้วยสาระสำคัญ ดังนี้

พระราชพิธีที่ประกอบขึ้นก่อนวันพระฤกษ์บรมราชาภิเษก

เมื่อพระราชครูวามเทพมุนีรับพระราชโองการด้วยภาษามคธและภาษาไทยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจริยาจากนั้นทรงเปลื้องพระมหาพิชัยมงกุฎ พระธำมรงค์รัตนวราวุธ และพระธำมรงค์วิเชียรเลขาธิการพระราชวัง ทูลเกล้าฯ ถวายดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน ทรงโปรยพระราชทานแก่พราหมณ์ แล้วเสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ สู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ๘๐ รูป พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราชถวายอดิเรกเป็นปฐม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายพระพรลาแล้วเสด็จขึ้น สมเด็จพระสังฆราชดับเทียนชัย

เสด็จออกมหาสมาคม

ในเวลาบ่ายของวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคมที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยให้คณะรัฐมนตรี คณะทูต สมาชิกวุฒิสภาสมาชิกสภาผู้แทน และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อกราบทูลถวายพระพรชัยมงคล โดยนายกรัฐมนตรี กราบทูลในนามคณะรัฐมนตรีและข้าราชการทั่วพระราชอาณาจักร และประธานรัฐสภา กราบทูลในนามประชาชนชาวไทย แล้วทรงมีพระบรมราชโองการตรัสตอบขอบใจทั่วกัน แล้วเสด็จขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินี ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภกในพระบวรพุทธศาสนาถวายพระบังคมพระบรมศพ พระบรมอัฐิพระอัฐิพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระอัครมเหสีในรัชกาลก่อนๆ และเสด็จเฉลิมพระราชมณเฑียร

เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร

การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค จัดเป็นราชประเพณีที่สำคัญพิธีหนึ่ง เมื่อเสด็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งนี้เพื่อให้พสกนิกรได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ และเนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัยแห่งวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกหรือวันฉัตรมงคล ผู้เขียนใคร่ขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ล้นเกล้าฯ อย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมกันน้อมเกล้าฯ ตั้งสัตยาธิษฐานเดชะคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกโปรดอภิบาลพระบรมราชจักรีวงศ์ให้สถิตธำรงอยู่คู่ดินฟ้าและโปรดประทานชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชขอจงทรงพระเจริญสิริสวัสดิ์ในไอศูรย์ราชสมบัติแห่งสยามรัฐสีมา ขอพระมหาราชเจ้าเผยแผ่พระบรมกฤษฎาเดชานุภาพคุ้มเกล้าฯ เหล่าพสกนิกร ตลอดในจิรัฐิติกาล เทอญ