นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) เพื่อตรวจติดตามงานด้านความมั่นคง และการพัฒนา #จังหวัดชายแดนใต้ โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ ๔/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชา ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ให้การต้อนรับ
.
พร้อมทั้งนำ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ของกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๕๒ เพื่อเยี่ยมให้ #กำลังใจ การฝึก #ทหารใหม่
ผลัดที่ ๒/๒๕๖๖ โดยมี พ.ท.ธงธน มากจันทร์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๕๒ ให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หน่วยฝึกและทหารใหม่อย่างไม่เป็นทางการเพื่อคลายความกังวลและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับน้องคนเล็กของครอบครัวกองทัพบก ซึ่งทหารกองประจำการทุกนายได้ผ่านกรรมวิธีรับทหารใหม่ อาทิ การทำประวัติ การตรวจร่างกายและคัดกรองโรค การประเมินสุขภาพจิต การแจกจ่ายเครื่องแต่งกายประจำตัว และแนะนำช่องทางการติดต่อกับครอบครัวระหว่างการฝึก ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการฝึก ก่อนเข้าสู่การฝึกทหารใหม่เบื้องต้น ระยะเวลา ๖ สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพจากพลเรือนสู่การเป็นทหารกองประจำการสมบูรณ์แบบ ทั้งด้านร่างกาย ระเบียบวินัยทางทหาร มีความรับผิดชอบ เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและรักในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
.
จากนั้น รมว.กลาโหม ได้มอบแนวทางให้หน่วยฝึกทหารใหม่ดูแลใส่ใจทหารใหม่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยฝึกพัฒนาระบบการฝึกให้ทันสมัยสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน เหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบัน และดำเนินการฝึกจากเบาไปหาหนัก ที่สำคัญพิจารณาสภาพความพร้อมของร่างกายทหารใหม่เป็นรายบุคคล และดูแลการแต่งกายให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อม เพื่อไม่เกิดการสูญเสียในระหว่างการฝึกตลอดจนแนะนำเกี่ยวกับการศึกษาต่อที่สูงขึ้น เพื่อทหารกองประจำการ ได้ต่อยอดและเปิดโอกาสก้าวสู่การเป็นทหารอาชีพในอนาคต อีกทั้งเมื่อฝึกจบแล้ว ต้องมีการประเมินผลการฝึก เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะฯ ได้เยี่ยมชมความเป็นอยู่ของทหารใหม่ อาทิ โรงนอน, โรงประกอบเลี้ยง, ห้องฝึกอบรม และระบบสุขาภิบาล
.
ขณะเดียวกัน รมว.กลาโหม และคณะฯ ยังได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการข่าวและแนวโน้ม, ภารกิจ การจัดและการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ พร้อมรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะ จากผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ, หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ, ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า รายงานสถานการณ์ภาพรวมและการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
.
พล.ท.ศานติฯ เปิดเผยว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมากว่า ๑๙ ปี เกิดจากการกระทำของกลุ่มขบวนการที่ใช้ความรุนแรงด้วยการลอบยิง ลอบวางระเบิด ทั้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐ บุคคลากรทางการศึกษา ผู้นำศาสนา และพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ อีกทั้งยังทำลายระบบสาธารณูปโภค ทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจและสังคม ในพื้นที่อย่างกว้างขวาง พร้อมย้ำว่า รัฐบาลได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาของ #เศรษฐกิจพอพอเพียง มาเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขปัญหาอย่าง #สันติวิธี ภายใต้กรอบนโยบายการบริหาร และพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างหลักประกัน สร้างความเชื่อมั่น นำความสงบสุข กลับคืนสู่พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตปกติสุข บนพื้นฐานความหลากหลายของสังคม #พหุวัฒนธรรม เพื่อสร้าง #สันติสุข อย่างยั่งยืน สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถสร้างความเข้าใจ สร้างหลักประกันความเชื่อมั่น ด้วยการมีส่วนร่วมแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติวิธี สร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูล หนุนเสริมกระบวนการพูดคุย “ยืนยันในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ตลอดจนข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตอบสนองต่อนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาลอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความมั่นคงของชาติและประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนชาวไทยตลอดไป” พล.ท.ศานติ กล่าว
.
นายสุทิน กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า เป็นหน่วยงานสำคัญ ที่ขับเคลื่อนแผนบูรณาการกับทุกส่วนราชการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบ การช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งยามปกติ และภัยคุกคามที่มีความซับซ้อน ตามกรอบแนวทางแผนปฏิบัติการด้านการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พุทธศักราช ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐ พร้อมย้ำว่าในฐานะ รมว.กห.มีความตั้งใจรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน จะได้หาทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากนั้นรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลโฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและการก่อสร้างรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งติดตามการแก้ไขปัญหาหินสไลด์ฝั่งมาเลเซียตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่บ้านแฆแบะ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมสถานที่ในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดน โดยโครงการ ดังกล่าว มีความสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกัน สกัดกั้น ยับยั้งการลักลอบขนย้าย อาวุธ #ยาเสพติด #แรงงานต่างด้าว #สิ่งผิดกฎหมาย ต่างๆ และการคัดกรองบุคคล ตลอดจนพัฒนาระบบบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีเอกภาพ มุ่งเน้นให้พื้นที่ชายแดนมีความมั่นคงปลอดภัย สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบริเวณชายแดน อีกทั้งรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีเป้าหมายลดเหตุความรุนแรง ความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
———————–
#กระทรวงกลาโหม
#เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และประชาชน
#โฆษกกระทรวงกลาโหม
#กลาโหมเทิดราชารักษ์ราษฎร์ชาติมั่นคง
———————–
เครดิตภาพ : https://www.facebook.com/biggunp5/posts/pfbid02vUiBNdsScSuxhKmJgdVx2eDscswrmwco8Y7wd2xSgA5h5BZrzR1gm5Kmj9RTftkMl
14
พ.ย.