๑๕,๐๐๐ ตารางไมล์ น่านฟ้าเหนือรัฐเนวาดา สหรัฐฯ เป็นพื้นที่ในห้วงอากาศที่จัดสรรไว้เพื่อการฝึก ทดสอบ และประลองยุทธของนักบินรบจากฝูงบินต่างๆ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และมิตรประเทศ ที่นี่เป็นศูนย์รวมของเหล่านักบิน Top Gun ตัวจริงและนักบินหนุ่มที่กำลังตามฝันที่จะไปให้ถึงที่สุดของการเป็นนักบินรบ ยุทธวิธีและเทคนิคใหม่ๆจะมีการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดกันที่นี่ในปี ๒๐๑๕ นักบินรบที่เก่าและใหม่ทั้งในกองทัพอากาศสหรัฐฯ และมิตรประเทศ พวกเขาได้มีโอกาสอันดีอีกครั้ง ที่จะมาประลองฝีมือกันในการฝึก Red Flag 15-2 ที่ Nellis AirForce Base,Nevada เป็นการฝึกครั้งที่สองของปี และเป็นการครบรอบสี่สิบปีของ Red Flag Exercise แต่ครั้งนี้มีอะไรที่พิเศษมากขึ้นคือ เป็นการทำหน้าที่ The Red Force ครั้งสุดท้ายของ F-15 : Eagle รวมถึงการนำระบบเรดาร์ตรวจจับ (Joint Surveillance andTargeting Radar System) เข้ามาเป็นเครื่องช่วยการฝึกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Red Flag 15-2 เป็นการฝึกขนาดใหญ่ที่ประกอบกำลังจากกำลังทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มากถึง ๑๓ ฝูงบินตามมาด้วยกำลังทางอากาศของ Royal Norwegian Air Force และ NATO ทั้งหมดนี้คือ The Blue Force ซึ่งเป็นรหัสกำหนดฝ่ายในการฝึก ความเข้มข้นสร้างความเร้าใจในตัว Red Flag ทุกปีของการฝึกคือ The Red Force สำหรับกองทัพอากาศไทย กับการฝึก Red Flag นั้น กองทัพอากาศไทย ได้ส่ง F-5E/F เข้าร่วมการฝึก Red Flag 83-1 เป็นครั้งแรกในปี ๑๙๘๓ หลังจากนั้นก็เงียบหายไปนาน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ และกลับมาเข้าร่วมการฝึกอีกครั้งใน Red Flag 03-3.1ในปี ๒๐๐๓ โดยส่ง F-16 A/B(ADF) เข้าร่วมการฝึกกำลังทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่รับบทบาทยอดครูการบินของนักบินรบโดยทำหน้าที่เป็นกองกำลังข้าศึกสมมุติในการยุทธทางอากาศด้วยกำลังทางอากาศคือฝูง The 64th Aggressor Squadron ซึ่งจะเป็นฝูงบินหัวหอกของ The Red Force โดยมีส่วนสนับสนุนที่สำคัญคือ USAF Weapons School, USAF Test and Evaluation Squadrons, และ USAF Trains Combat “F-16 : Falco ของนักบิน Aggressor จิกหัวดำดิ่งพุ่งตรงมาหา F-16 : Falcon ของผมที่ระยะ ๓๐,๐๐๐ ฟุต พร้อมทางยาวๆสีขาวหลังท่อสันดาป (Contrails) จากระยะ๕๐,๐๐๐ ฟุต มันรวดเร็วมากเกินกว่าที่ผมจะตั้งรับทัน และในที่สุด Aggressor ก็วางตัวจ่อยิงผมจากทางด้านท้าย (Six O’Clock kill)นั่นคือ ผมแพ้แล้ว”“ผมรู้สึกว่านักบิน Aggressor รู้ทุกสิ่งทุกอย่างของสมรรถนะ F-16 ภูมิประเทศและห้วงอากาศเหนือเนวาดา เขาสามารถชิงความได้เปรียบในทุกจังหวะการบิน สามารถซ่อนพลางตัวในเมฆหมอกและชั้นความสูงที่แตกต่างคอยจับตาดูนักบินของ The Blue Force อย่างไม่คลาดสายตา พวกเขาสามารถเข้าทำลายได้ทุกเมื่อและทุกท่าทางการบิน” นี่คือคำสารภาพและยอมรับของนักบิน The Blue Forceคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะผันตัวเองมาเป็นนักบิน TheRed Force ในภายหลัง เมื่อเขาเข้าสู่ระดับTop Gun และเป็นช่วงวัยที่ต้องถ่ายทอดเพื่อสร้างประสบการณ์การเป็นนักบินรบชั้นยอดให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯในกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นองค์กรที่เปิดกว้างมากในหลักความสามารถ การเป็นนักบินรบกับเครื่องสมรรถนะชั้นสูงนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นักบินเพศชายเท่านั้น ผู้หญิงก็สามารถเป็นได้ ถ้าสามารถผ่านมาตรฐานการฝึกระดับเดียวกับผู้ชาย และที่ The 64thAggressor Squadron นี้ก็เช่นเดียวกัน นักบินรบระดับเทพที่เข้ามาเป็นสุดยอด Aggressorก็มีนักบินหญิงด้วยนักบินทั้งหมดที่นี่ พวกเขาภูมิใจในสัญลักษณ์ของ Patch รูปดาวแดงที่หมายถึงความเป็นสุดยอดของนักบิน ที่มาเป็นAggressor Pilot ขอบดาวแดงเดินด้วยเส้นสีเหลือง วางตำแหน่งลงบนหน้าผากของหัวกะโหลกติดอยู่ที่แขนเสื้อชุดนักบิน “The RedForce : Aggressor Flight Suit”

 

ในปี ๑๙๗๕ ได้เกิดแนวคิดของ Red Flag จากการศึกษาผลของการสูญเสียเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนามและสงครามเกาหลี ของกลุ่มนายทหารที่เรียกตนเองว่า “The Original Red Flag Staff” จากThe 414th Training Squadron, Nellis AFB.ผลการศึกษาเรือ่ งนี้ไดน้ำ เสนอในรปู รายงานชือ่“The Red Baron Report” พวกเขาสรุปว่านักบินที่รอดมาจาก ๑๐ เที่ยวบินแรกของCombat Mission นั้น เป็นนักบินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทักษะการบินรบที่จะสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกการรบทางอากาศ ดังนั้นพวกเขาจึงคัดสรรยุทธวิธีและประสบการณ์การบินรบในช่วง ๑๐ เที่ยวบินแรกของนักบินเหล่านี้มาเติมเต็มให้กับนักบินใหม่ที่กำลังหาความชำนาญ ซึ่งในความหมายของนักบินรบแล้วก็คือพวกเขาพุ่งเป้าหมายไปที่นักบินหมายเลขสี่ ของหมู่บิน The Blue Force : Blue 4“The Red Baron Report” ได้รับการยอมรับทันที และถูกนำไปใช้ครั้งแรกที่ TheArmy National Training Center at FortIrwin, Calif และหลังจากนั้นในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ปี ๑๙๗๕ เช่นเดียวกัน ได้เกิดการฝึก The Red Flag Exercise ครั้งแรก ในยุคเริ่มต้น Aggressors มาจากฝูง F-4 : Phantomจาก Holloman AFB, New Mexico และในปัจจุบันปี ๒๐๑๕ ตลอดห้วงเวลา ๔๐ ปี “TheRed Flag Exercise” ได้ฝึกนักบินรบมาแล้วถึง ๑๔๕,๐๐๐ คนนักบิน Aggressors จะถ่ายทอดทักษะด้วยตัวอย่างของจริงในการประลองยุทธทางอากาศกับนักบิน Blue Force พวกเขาสามารถชี้ให้เห็นจุดอ่อนทางการบินและเป็นท่าตายของนักบิน Blue Force นั่นจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จำติดตาและเป็นจิตวิญญาณในการพลิกสถานการณ์ให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ เมื่อนักบิน Blue Force ต้องอยู่ในการรบที่แท้จริงการฝึกจะยากขึ้นทุกขั้นที่นักบิน Aggressorsเห็นว่านักบิน Blue Force แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทักษะการบินรบ นักบิน BlueForce และนักบิน Aggressors พวกเขาต่างยอมรับว่า เป็นช่วงที่ยากลำบากมากในการผ่านการทดสอบในแต่ละระดับของนักบินทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ให้และผู้รับ แม้ว่าในแต่ละวันพวกเขาจะมีวงรอบการทำงานร่วมกันแค่สามอย่างเท่านั้นเองคือ Planning, Executingและ De-Briefingพวกเขาเหล่านักบิน Aggressors ต่างมีความมุ่งมั่นเหมือนๆ กัน ที่จะเติมทักษะการบินรบให้แก่นักบินรุ่นใหม่ๆ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้มากที่สุด เป็นภารกิจที่ท้าทายและยากลำบาก เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีและขีดความสามารถของทั้งเครื่องบินและนักบินล้วนๆ พวกเขากล่าวถึงผลงานของเขาต่อ BluePilots ว่า “We won’t out there to watch our front-line fighter fail. We want them to be able to go, succeed and do well.