เมื่อ 18 พ.ย.62 เวลา 1430 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้ให้การต้อนรับและทำหน้าที่ประธานการประชุม รมว.กห.อาเซียน กับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 6 ณ รร.อาวานี กรุงเทพฯ
โดย พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้ประชาชนญี่ปุ่น จากผลกระทบใต้ฝุ่นฮากิบิสที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ร่วมมือกันพัฒนาอาเซียน ให้มีความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ และขอชื่นชมประเทศคู่เจรจา ที่ให้การสนับสนุนความเป็นแกนกลางอาเซียน รวมถึงสนับสนุนกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงที่อาเซียนมีบทบาทนำ เพื่อแก้ปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาค บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งสะท้อนอยู่ในเอกสาร “มุมมองอาเซียนต่อ อินโด – แปซิฟิก” ที่ผู้นำอาเซียนเห็นชอบร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับอาเซียน ในการมีปฏิสัมพันธ์ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือที่ทุกฝ่ายในภูมิภาคได้ประโยชน์ร่วมกัน
เลขาธิการอาเซียน ได้กล่าวรายงานความคืบหน้าของพัฒนาการอาเซียนที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมคาบเกี่ยวกับเสาหลักด้านต่างๆ รวมทั้งมีพัฒนาการและปฏิสัมพันธ์ร่วมกับประเทศในภูมิภาคมากขึ้น ด้วยความมุ่งมั่น เปิดกว้าง โปร่งใสและยึดหลักกฎหมาย
จากนั้น ทุกประเทศสมาชิกได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคร่วมกัน โดยในภาพรวม ยังมีความกังวลต่อ ความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจ และความท้าทายด้านความมั่นคงของภูมิภาคที่ซับซ้อนและเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการก่อการร้าย ความมั่นคงปลอดภัยด้านด้านไซเบอร์ การแพร่ขยายตัวของอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค และปัญหาทะเลจีนใต้ โดยเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันจัดการและบริหารความขัดแย้งระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้น
ต่อจากนั้น ทุกประเทศได้ชื่นชมการต้อนรับของไทยอย่างอบอุ่นเป็นกันเองและการบริหารจัดการประชุมสำเร็จอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งได้ร่วมกันรับรองแถลงการณ์ร่วมของรมว.กห.อาเซียน กับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ว่าด้วยการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วน เพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน และรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินการ ADMM – Plus ในการประเมินผลการดำเนินงานของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การขยายโครงสร้างการสื่อสารโดยตรงของประเทศสมาชิกอาเซียนไปยังประเทศคู่เจรจา และการจัดทำหนังสือคู่มือแพทย์ทหารอาเซียน
และตอนท้ายการประชุม พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวขอบคุณทุกประเทศสมาชิกที่สนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของไทย และย้ำถึงความเชื่อมั่น ในความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จะเป็นส่วนสำคัญในการดำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป พร้อมเชื่อมั่นว่าการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและประธานการประชุม ADMM และ ADMM – Plus ของเวียดนามในปีหน้า จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน ต่อจากนั้นได้กระทำพิธีส่งมอบการทำหน้าที่ประธานการประชุม ADMM และ ADMM – Plus ให้กับ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม