พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. ได้มอบให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กห. เป็นผู้แทนให้การต้อนรับ นาย Ro Manabe (โร มานาเบะ) ผช.รมว.กห.ญี่ปุ่น ด้านกิจการต่างประเทศ เข้าเยี่ยมคำนับ ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อแนะนำตัวในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดย รมช.กห. ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่ได้เข้ารับตำแหน่ง พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศที่ได้ดำเนินมาจนเข้าสู่ปีที่ 129 โดยเฉพาะความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่าง กห. และ กห.ญี่ปุ่น ที่มีความใกล้ชิดและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และกำลังพลในทุกระดับ ซึ่ง ผช.รมว.กห.ญี่ปุ่น กล่าวว่า ภารกิจหลักในฐานะ ผช.รมว.กห.ด้านกิจการต่างประเทศ มีหน้าที่ในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือไม่เฉพาะกับไทย แต่กับประเทศอื่นๆ ด้วย จึงขอทำความเข้าใจในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง กห. กับ กห.ญี่ปุ่น ใน 3 ประเด็น คือ ประเด็นแรก ญี่ปุ่นจะจัดให้มีการประชุมระหว่าง กห.อาเซียน – ญี่ปุ่น ในห้วงเดือน พ.ย.59 ณ สปป.ลาว และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว จะมีการประชุมระดับ รมช.กห.อาเซียน เกิดขึ้นก่อนในห้วง ก.ย.59 ซึ่งญี่ปุ่นจะเตรียมจัดทำเอกสารข้อมูลแนวทางความร่วมมือญี่ปุ่น-อาเซียน ส่งให้ผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมได้ศึกษาพิจารณาเป็นการล่วงหน้า ประเด็นที่สอง กห. กับ กห.ญี่ปุ่น มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งการเยือนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง การศึกษา การฝึกร่วม ซึ่งในระหว่าง 1-11 ก.ย.นี้ ญี่ปุ่น จะร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการฝึกร่วมระหว่างคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทหารและคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (AM – Hex 2016) ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จึงมีข้อเสนอให้ไทยพิจารณาในการทำบันทึกความร่วมมือทั้งหมดไว้เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป และประเด็นที่สาม ในโอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย – ญี่ปุ่น จะครบ 130 ปี ในปี 2560 จึงควรใช้โอกาสนี้สร้างความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง กห. กับ กห.ญี่ปุ่น ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประกอบกับเป็นปีที่อาเซียนจะครบ 50 ปีของการสถาปนาใน พ.ย.60 โดย กห. ได้จัดให้มีกิจกรรมการสวนสนามทางทะเล ซึ่งญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลเข้าร่วม และเห็นว่าควรจัดกิจกรรมดังกล่าวในส่วนของ ทบ. และ ทอ.ในโอกาสนี้ พร้อมกับการเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องกฎหมายน่านฟ้าระหว่างประเทศ และความพยายามที่จะให้เกิดความร่วมมือกันระหว่าง กห.กับ กห.ญี่ปุ่น ในด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะให้มีการทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน โดยมีคณะทำงาน ดำเนินการผ่านทาง สน.ผชท.ต่อไป ในโอกาสนี้ รมช.กห. ได้กล่าวยินดีที่ญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายทางด้านสันติภาพและความมั่นคงของญี่ปุ่น ที่จะนำไปสู่การขยายและการพัฒนาความร่วมมือทางทหารของญี่ปุ่นกับมิตรประเทศทั้งในและนอกภูมิภาค พร้อมกันนี้ได้ขอให้ญี่ปุ่นเข้าใจและสนับสนุนรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ปัญหาให้กับประเทศและสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นตามวิถีทางประชาธิปไตย โดย ผช.รมว.กห.ญี่ปุ่น เห็นว่า ประเทศไทยมีความสำคัญต่อภูมิภาค หากมีความสงบ จะส่งผลให้ภูมิภาคมีความสงบด้วย พร้อมกับให้กำลังใจรัฐบาลได้เดินหน้าตามโรดแมปไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ต่อไป